สถานที่ที่น่าเที่ยวในจังหวัดตราด
ตราด (Trat) เป็นจังหวัดติดทะเลอ่าวไทยซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดในภาคตะวันออกของประเทศ
มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชาทางตะวันออก
และติดกับจังหวัดจันทบุรีเพียงจังหวัดเดียวทางตะวันตก
มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาและสวนผลไม้อันเป็นหนึ่งในผลผลิตขึ้นชื่อของจังหวัดนี้
ส่วนการปกครองนั้นตราดถูกแบ่งออกเป็น 7 อำเภอ 38 ตำบล และเป็นจังหวัดที่มีเกาะเป็นจำนวนมาก โดยเกาะช้างที่ใหญ่เป็นอันดับ 2
ของไทย และเกาะกูดที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทยก็อยู่ในเขตจังหวัดนี้
การเตรียมตัวเดินทาง
ฤดูกาลและสภาพอากาศ ตราดมีสภาพอากาศใกล้เคียงกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย
โดยมีฤดูร้อนในช่วงเดือนมีนาคม –
กลางเดือนพฤษภาคม และมีฝนต่อจนถึงเดือนตุลาคม
ส่วนฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์จะไม่หนาวจัด
ซึ่งในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนนี้เองที่เป็นช่วงทะเลสวยเหมาะกับการเล่นน้ำ
และไม่ค่อยมีพายุฝนเหมือนกับช่วงฤดูฝน
ส่วนในฤดูฝนจะเหมาะกับการเที่ยวตราดแบบไม่ข้ามเกาะ เช่นการเที่ยวเชิงเกษตร น้ำตก
หรือป่าชายเลน
การเดินทางไปตราด
ตราดมีถนนสายหลักคือถนนสุขุมวิท
ซึ่งผู้ที่ขับรถยนต์มาจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์)
และออกมาทางถนนบ้านบึง-แกลง ผ่านอำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ก่อนเข้าสู่จังหวัดจันทบุรี จึงจะถึงจังหวัดตราด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
และอาจช้ากว่าเล็กน้อยหากขึ้นรถทัวร์หรือรถตู้ซึ่งมีให้บริการถึงจังหวัดตราด
แต่ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินมายังสนามบินตราด จะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
การเดินทางในตราด ในตัวเมืองตราดมีบริการรถเมล์เล็ก
รถสองแถว และจักรยานยนต์รับจ้างรับส่งในย่านเศรษฐกิจสำคัญ
รวมไปถึงท่าเรือขึ้นไปยังเกาะต่าง ๆ
แต่ระบบขนส่งมวลชนของตราดก็ไม่ได้สะดวกสบายอย่างในเมืองใหญ่มากนัก
การใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางท่องเที่ยว
และมีเรือเฟอร์รี่ให้บริการนำรถข้ามไปท่องเที่ยวที่เกาะช้างได้
ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางสำหรับผู้ที่มีรถยนต์เป็นอย่างมาก
โรงแรมที่พักในตราด แน่นอนว่าจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเลแบบนี้ลักษณะของโรงแรมต้องหนีไม่พ้นรีสอร์ทอันสวยงามติดทะเล
หรือถ้าต้องการความประหยัดลงมาก็ยังมีตัวเลือกเป็นบังกะโลที่ให้วิวสวยไม่แพ้กัน
แต่อีกหนึ่งที่พักในตราดซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปัจจุบันนั้นก็คือที่พักแบบ
“โฮมสเตย์” ซึ่งคุณจะได้เข้าพักกับบ้านของชาวบ้านตามสวน
ป่าชายเลน หรือพื้นที่ปากแม่น้ำ ซึ่งให้อารมณ์ที่แปลกใหม่แตกต่างจากโรงแรมทั่วไป
ท็อป 10 สถานที่ท่องเที่ยวตราด
เกาะช้าง (Koh
Chang Island)
เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต ซึ่งมีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของตราด
ครอบคลุมพื้นที่เกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ และเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างอีกด้วย
เกาะนี้จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย และแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติที่สำคัญของภาคตะวันออก
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวของเกาะก็มีทั้งชายหาดกับน้ำทะเลใสสะอาด รวมทั้งยังมีภูเขาสูง
น้ำตกที่สวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในป่า และมีป่าชายเลนเป็นบางส่วน
จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายมาก และสะดวกสบายด้วยการนำรถยนต์ข้ามไปเที่ยวบนเกาะได้
เกาะกูด (Koh
Kood Island)
เกาะกูดเป็นเกาะใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดตราด และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ
มีความพิเศษในฐานะที่เป็นเกาะสุดท้ายของแผ่นดินไทยทางน่านน้ำฝั่งตะวันออก
(ไม่มีเกาะอะไรอีกแล้วจนเข้าเขตกัมพูชา) แม้ว่าเกาะนี้จะเป็นเกาะใหญ่
แต่ไม่มีบริการเรือเฟอร์รี่บรรทุกรถยนต์ข้ามไปบนเกาะเหมือนเกาะช้าง
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความงดงามที่เขาร่ำลือกัน จนต้องไปชมให้เห็นกับตา
เพราะเกาะกูดนี้เองที่ได้รับฉายาว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” เนื่องจากตัวเกาะที่อยู่ห่างไกลชายฝั่ง
ทำให้น้ำทะเลใสสะอาดจนเห็นท้องทราย และยังเป็นเกาะที่ชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงามอีกด้วย
เกาะกระดาด (Koh
Kradad Island)
ขอบคุณภาพประกอบจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เกาะหน้าตาแปลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก!
ด้วยภูมิประเทศของเกาะที่มีลักษณะแบนราบเหมือนกับกระดาษ ไม่มีภูเขาสูงแบบเกาะอื่น
ๆ เลยแม้แต่น้อย บนเกาะเต็มไปด้วยต้นสนและต้นมะพร้าวรับลมเย็นสบาย
มีคลื่นน้ำทะเลสีเข้มและหาดทรายสีเหลืองนวล แต่นอกจากเป็นสถานที่พักผ่อนชมทะเลแล้ว
ที่เกาะกระดาดนี้ยังเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวซึ่งมีการเก็บขายอยู่ทุกวัน
และที่แปลกตายิ่งกว่านั่นก็คือ มี “ฝูงกวาง” ที่อยู่อาศัยบนเกาะนี้เป็นจำนวนไม่น้อยเลย
โดยคุณสามารถนั่งรถอีแต๋นชมบรรยากาศรอบเกาะได้
เนื่องจากเป็นเกาะส่วนตัวในความดูแลของเกาะกระดาดรีสอร์ท จึงต้องเสียแพคเกจเข้าพัก
เกาะรัง (Koh
Rung Island)
เกาะรังเป็นหนึ่งในหมู่เกาะเล็ก ๆ
ของจังหวัดตราดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการดำน้ำตื้นดูรอบโขดหินกลางทะเล
เพราะบริเวณโดยรอบเกาะมีโขดหินโผล่พ้นเหนือน้ำอยู่หลายจุด
มีปะการังและปลาทะเลมากมายหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ นอกจากการดำน้ำแล้ว
เกาะรังยังมีชื่อเสียงในเรื่องของรังนกนางแอ่น
โดยเป็นเกาะแห่งเดียวในจังหวัดตราดที่มีสัมปทานเก็บรังนกนางแอ่นคุณภาพดี
ส่วนผู้ที่ต้องการพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้ก็มีพื้นที่ให้บริการกางเต็นท์ค้างคืน
แต่ไม่มีโรงแรมที่พักเนื่องจากเป็นเกาะที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ของอุทยานฯ
หาดทรายดำ (Sai
Dum/Black Sand Beach)
ทราบหรือไม่ว่าในโลกนี้มีหาดเพียง 5 แห่งเท่านั้นที่มีทรายเป็นสีดำ และที่ “หาดทรายดำ” ของอำเภอแหลมงอบ
จังหวัดตราด ก็เป็นหนึ่งใน 5 หาดนั้น!
โดยหาดแห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าหาดหัวสน
ซึ่งเป็นหาดในลักษณะป่าชายเลนที่มีทรายสีดำสนิทสมชื่อ
และจะปรากฏให้เห็นในช่วงน้ำลงสุดเท่านั้น
โดยชาวท้องถิ่นเชื่อว่าทรายสีดำของหาดนี้สามารถรักษาโรคต่าง ๆ
ได้เพียงแค่หมกตัวนอนอยู่ในทราย เท็จจริงอย่างไรยังไม่มีใครพิสูจน์ แต่ที่แน่ ๆ
ความสวยงามแปลกตาของหาดนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศให้มาชม
ซึ่งปัจจุบันก็มีการจัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติร่วมกับป่าชายเลนด้วย
หาดมุกแก้วและหาดทรายแก้ว (Muk
Kaew & Sai Kaew Beach)
ถ้าอยากเที่ยวทะเลจังหวัดตราดแบบไม่ข้ามเกาะ 2 หาดที่อยู่ติดกันนี้คือตัวเลือกที่เหมาะเจาะพอดี
เพราะเป็นชายหาดใหญ่ของตราดที่มีรีสอร์ทน้อยใหญ่ให้บริการติดทะเล
เดินทางสะดวกสบายใกล้อำเภอเมืองตราด และยังมีความเงียบสงบน่าพักผ่อนเป็นอย่างมาก
โดยความสวยงามของชายหาดทั้ง 2 แห่งนี้ก็มีทั้งน้ำทะเลสวย
หาดทรายขาวสะอาดยาวต่อเนื่องจนสุดสายตา
และยังมีทิวสนและทิวมะพร้าวสร้างความร่มรื่นริมชายฝั่งอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับครอบครัว
และยังมีความพิเศษตรงบริเวณหาดมุกแก้วที่ทำมุมเหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกอย่างพอดิบพอดี
น้ำตกสะพานหิน (Sapan
Hin Waterfalls)
มาถึงที่เที่ยวที่ไม่ใช่ทะเลกันบ้าง
เพราะที่เที่ยวของตราดยังมีไฮไลท์สวยๆ ในรูปแบบอื่น ๆ อีก อย่างน้ำตกสะพานหิน
ซึ่งเป็นน้ำตกใหญ่อันมีชื่อเสียงของตราดด้วยมีน้ำตลอดทั้งปีจึงมาเที่ยวได้ตลอดปีเช่นกัน
มีความพิเศษอยู่ตรงชั้นล่างของน้ำตกที่น้ำจะไหลผ่านแผ่นหินเตี้ย ๆ
ในทางราบจนดูคล้ายกับสะพาน
แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของน้ำตกทั้งหมดที่มีความสูงรวมถึง 30 เมตร และสามารถเล่นน้ำได้ในบางจุด
น้ำตกนี้จึงเป็นที่เที่ยวพักผ่อนยอดฮิตของชาวเมืองตราด
และโดยรอบยังมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย
ส่วนฤดูฝนจะมีกระแสน้ำแรงและเชี่ยวกราด
ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเล่นน้ำเป็นพิเศษ
บ้านน้ำเชี่ยว (Nam
Chiew Village)
หากคุณกำลังมองหาโฮมสเตย์ดี ๆ เข้าถึงวิถีชาวบ้านได้อย่างกลมกลืนล่ะก็
บ้านน้ำเชี่ยวยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนด้วยชุมชนที่ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นับตั้งแต่ก้าวแรกคุณก็สามารถชมวิถีชีวิตของชาวบ้านได้แทบจะทุกรูปแบบ
ทั้งการต่อเรือ การหาปลา ชิมขนมเบื้องและตังเมกรอบ
พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการลองทำเองแบบสด ๆ
และที่สร้างความตื่นตาให้กับการท่องเที่ยวที่บ้านน้ำเชี่ยวเป็นอย่างมากคือการเดินชมป่าชายเลนบนเส้นทางเดินป่าที่จัดทำขึ้นเป็นอย่างดี
ให้คุณสัมผัสกับผื่นป่าอันอุดมสมบูรณ์ริมทะเลตราดได้อย่างใกล้ชิด
วัดโยธานิมิต (Wat
Yothanimit Temple)
ขอบคุณภาพจากเพจวัดโยธานิมิตร
วัดโยธานิมิตเป็นอารามหลวงแห่งเดียวของจังหวัดตราดที่มีความเก่าแก่และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
และเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชส่งรวบรวมไพร่พลที่เมืองตราดเพื่อกอบกู้กรุงศรีอยุธยาอีกด้วย
ในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดนี้ถูกเรียกว่า “วัดโบสถ์” เนื่องจากอุโบสถของวัดนี้มีความวิจิตรงดงามเป็นอย่างมากในสมัยนั้น
ปัจจุบันวัดโยธานิมิตตั้งอยู่บริเวณใกล้กับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง กลางเมืองตราด
และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความเก่าแก่และสวยงามของวัดแห่งนี้ได้หากผ่านไปผ่านมาในบริเวณตัวเมือง
พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด (Trat
Museum)
สถานที่สุดท้ายในไฮไลท์แหล่งท่องเที่ยวตราดที่เราต้องขอแนะนำให้คุณไปชมเมื่อไปเที่ยวจังหวัดนี้
เพราะถ้าดูจากภายนอกแล้วที่นี่จะเหมือนกับโรงเรียนไม้เก่า ๆ ที่ยกไต้ถุนสูง
ตามสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่แท้จริงภายโรงเรียนเก่า
ๆ หลังนี้ในคือพิพิธภัณฑ์อันทันสมัยที่ซ่อนรูปอยู่ภายในอย่างมิดชิด โดยในอาคารถูกจัดเป็นโซนบอกเล่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านสื่อและแบบจำลองสภาพความเป็นอยู่ของชาวตราดที่สวยงาม
พร้อมกับจัดแสดงวัตถุโบราณบางส่วน
และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ติดแอร์อย่างเย็นฉ่ำน่าเดินเล่นเป็นอย่างมาก
สถานที่ท่องเที่ยวอื่น
ๆ ที่น่าสนใจในตราด
เกาะหมาก (Koh Mak
Islandf)
เกาะใหญ่อันดับ 3 ของตราดซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด
บนเกาะแห่งนี้มีจุดเด่นตรงพื้นที่เกาะซึ่งเต็มไปด้วยต้นมะพร้าวสูงชะลูด
ทั้งยังเป็นเกาะที่มีชายหาดน่าเล่นหลายแห่ง อาทิเช่นอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวแดง
และอ่าวพระ
เกาะขาม (Koh
Kham Island)
อีกหนึ่งเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและมีชื่อเสียงโด่งดัง
มีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสจนมองเห็นปะการังพื้นทะเล
จึงเหมาะกับการดำน้ำดูปลาทะเลและปะการังเป็นอย่างมาก
และยังมีไฮไลท์เป็นสันทรายทอดลงทะเลที่ยาวถึง 300 เมตร
เกาะไม้ชี้ (Koh Mai
Chee Island)
เกาะไม้ชี้เป็นเกาะส่วนตัวเล็ก ๆ
เกาะหนึ่งในตราดที่มีน้ำทะเลใสสะอาด
และยังคงธรรมชาติทั้งบนเกาะและโดยรอบทะเลอย่างอุดมสมบูรณ์
เป็นอีกจุดที่ดำน้ำดูปะการังได้อย่างสวยงาม ซึ่งเต็มไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด
อ่าวตาลคู่ (Taan Ku
Bay)
อ่าวสวยงามในอำเภอแหลมงอบที่มีจุดเด่นตรงหาดทรายละเอียดและวิวสวย
มีความยาวของชายหาดประมาณ 500 เมตร โดยชื่ออ่าวมาจากต้นตาล 2 ต้นขึ้นคู่กันบริเวณกึ่งกลางอ่าวพอดี
แต่ปัจจุบันต้นตาลได้ล้มไปแล้วจากน้ำทะเลเซาะชายฝั่ง
น้ำตกเขาสลัดได (Khao
Salatdai Waterfalls)
น้ำตกขนาดเล็กแต่มีชื่อเสียงอีกน้ำตกหนึ่งในจังหวัดตราด
ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปีท่ามกลางป่าดิบชื้นและสวนผลไม้ของชาวบ้านในท้องถิ่น
เนื่องจากน้ำตกลงมาเป็นแอ่งกว้างจึงทำให้สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย
บ้านเปร็ดใน (Pred
Nai Village)
หมู่บ้านป่าชายเลนที่ได้ยกย่องว่ามีความสมบูรณ์เป็นอันดับ 2 ของไทย
โดยตัวหมู่บ้านได้จัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
เพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนผื่นใหญ่ของชุมชนร่วมกับการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม
บ้านท่าระแนะ (Ta
Ranae Village)
เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านป่าชายเลนของจังหวัดตราด
โดยมีป่าชายเลนขนาด 2,000 ไร่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้อายุนานกว่า
100 ปี
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิดถึงพื้นป่าเลยทีเดียว
สวนสละสมโภชน์ (Somphoch
Sala Farm)
ไฮไลท์ด้านผลไม้ของจังหวัดตราดที่นอกเหนือจากทุเรียน มังคุด
และเงาะแล้ว ก็มีสละหวานแสนอร่อย
ซึ่งสวนผลไม้แห่งนี้ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสละกันแบบฟรี ๆ อย่างใกล้ชิด
และเปิดจำหน่ายสละสดและสละแปรรูปตลอดทั้งปี
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด (Trat
City Pillar Shrine)
หากเป็นจังหวัดอื่น ๆ ศาลหลักเมืองก็มักจะเป็นศาลไทย
แต่ที่จังหวัดตราดนั้นศาลหลักเมืองเป็นศาลเจ้าจีน
ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวตราดมาตั้งแต่สมัยโบราณ
โดยภายในก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนทั้งหมด
อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง (Koh
Chang Marine Memorial)
อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรือรบและข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ซึ่งสร้างชื่อในสงครามยุทธนาวีเกาะช้างที่กองทัพเรือไทยสู้รบกับกองทัพเรือฝรั่งเศสที่กำลังประชิดชายฝั่งทะเลตราดในสมัยนั้น
และทั้งหมดนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราดที่น่าสนใจและกำลังรอคอยให้คุณไปชมด้วยตาตนเองสักครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นเกาะ ทะเล น้ำตก
หรือที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ท้องถิ่นก็ล้วนแล้วแต่น่าไปสัมผัสทั้งนั้น
แถมการเดินทางก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพราะมีสายการบินให้บริการแม้จะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
มากนัก ลองมาตราดดูแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมจังหวัดปลายสุดของภาคตะวันออกไทยถึงได้มีมนต์เสน่ห์มากมายขนาดนี้