วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

มาแล้วตอนที่ 5

ซื้ดด ซื้ดดดดโอย น้ำมูกไหล

คืนนั้นพอกลับมาถึง ยายก็เรียกให้ไปกินข้าวบนเรือนใหญ่ก่อน แล้วก็ไม่พ้นโดนว่าเรื่องไม่ดูแลสุขภาพ

เอาเหอะๆ ยาย ปริ้นก็เป็นแล้วอ่ะ เด๋วรีบเข้านอนพรุ่งนี้ก็หายแล้วผมพูดด้วยความหงุดหงิด

แล้วก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าเข้าล่ะ ตากฝนมาแต่เช้า ตัวชื้นไปหมดได้ยินดังนั้นผมก็ทำท่าสั่นหัวไปทางโอ้ต ประมาณว่า ให้ตายกรูก็ม่ายอาบหรอกคืนนี้

โอ้ต กินข้าวเสร็จแล้วตามไปในครัวด้วยนะยายผมว่าพลางเดินออกไปนอกห้อง

ครับว่าพลางรวบช้อนส่อมเข้าที่

จะไม่อาบน้ำจริงๆเหรอ

เออดิ เป็นหวัดอยู่นะ จะให้อาบน้ำตอนกลางคืนเนี่ยผมพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้านตัวเอง ตอนนี้เริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกรอบแล้วคับ สงสัยยามันหมดฤทธิ์แล้ว ช่วงนี้ผมกะลังล้างหน้าแปรงฟัน (แต่ไม่อาบน้ำ)อยู่ ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

ปริ้นอยู่ในห้องน้ำเหรอ

อือออออ

คุณยายให้เอาของมาให้ โอ้ตวางไว้บนหัวนอนน่ะ

อืออออ ออบไอ (ขอบจาย)

ก๊อกๆ โอ้ตมันเคาะประตูห้องน้ำ

อือ อ้าไอ (ว่างาย)

แล้ว……. ตอนนอน ห่มผ้าด้วย

หลังประตูห้องน้ำผมรู้ไม่รู้ว่าโอ้ตมันทำหน้ายังไงครับ แต่ที่รู้ก็คือ หน้าผมบานที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น

อ๊าบบ (ค๊าบ)

ซักพัก ผมออกมาก็ไม่เห็นโอ้ตมันอยู่แล้ว ว้า เซ็งนิดๆ แต่เอาเหอะ กรูไม่สบายอยู่นี่หว่า ถึงแม้จะรู้สึกว่าเหนียวตัวเล็กๆ แต่ผมก็ทนกับอาการปวดหัว แล้วก็อ่อนเพลียไม่ไหว ขอกรูหลับก่อนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

คร่อก …… Zzzzzzzz”

กึก กึกก

แอ๊ดดดดดดด

ผมได้ยินเสียงฝนเริ่มตกกระหน่ำลงมาอีกรอบ ในช่วงกลางดึก แล้วก็รู้สึกสัมผัสอุ่นๆ มาอังบริเวณซอกคอ หน้าอก แล้วก็ตามลำตัว สุดท้าย มันก็มาโปะเข้าที่หน้าผาก

อืออออ

อาไรวะเนี่ย ผมเผลอครางออกมาโดยไม่รู้ตัว บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงข้างหน้าสะดุ้งเฮือก ผมรับรู้ได้เท่านั้น ม่านตาก็ค่อยๆปิดเข้าสู่ภวังค์อีกรอบ (นี่ถ้าคนร้ายเข้ามากรูโดนฆ่าแน่)

ตี้ดด ติ้ดดดด ติ้ดดดดดดดด

เสียงมือถือดังจนผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา

โหลเสียงผมตอบไปงัวเงียโคตรๆ

ตื่นได้แล้วเสียงไอ้โอ้ตคับ คราวนี้มาแปลกโทรสับมาปลุก

อือๆ รู้แล้ว

เออ เดินมาเอาเสื้อที่เรือนใหญ่ด้วย เมื่อวานก็รีบลงมาไม่ทันได้บอก

อืออโอ้ตเอามาให้หน่อยดิ ผมเริ่มใช้งาน

อ้าวกำลังจะอาบน้ำเนี่ย อีกนานเลยกว่าจะเสร็จเอ๊ะ ไอ้โอ้ตอาบน้ำนานเหรอวะ

แน่ใจ๋ว่าอาบน้ำ ? ”

เออดิ คิดว่าทำอะไรเล่า

อือๆ แค่นี้ก็ไปหยิบมาให้หน่อยไม่ได้แล้วผมก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สายตาก็เหลือบไปชามใส่หอมใหญ่ไว้เต็มชามเลย สงสัยยายจะให้โอ้ตหยิบมาให้เมื่อคืนนั่นเอง - - - แต่ ผ้าอะไรหว่า ?

ผมแอบสังเกตเห็นว่ามีผ้าผืนเล็กตกอยู่ข้างหมอนตัวเอง

เอ๋ !? ”

แล้วผมก็งงกะตัวเองอีกรอบว่า เสื้อที่ผมใส่มะคืน กับวันนี้มันคนล่ะตัวกันนี่หว่า ระหว่างที่กำลังเง็ง โอ้ตมันก็โทรสับมาอีกครับ

ทำอะไรอยู่ จะสายแล้วนะเสียงมันโมโหๆ

เออๆ แล้วก็รีบวิ่งไปเปิดล็อกประตู ห้อไปเอาเสื้อที่ปักชื่อเสร็จเรียบร้อยที่เรือนใหญ่

เป็นยังไงปริ้น ค่อยยังชั่วเหรอยัง ยายทักผมระหว่างที่กำลังจะเดินกลับ

ครับ ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังน้ำมูกไหลอยู่อ่ะ

ดีแล้ว ยังไงวันนี้ก็อย่าไปตากฝนอีกล่ะโอ้ตเค้าพูดอะไรก็เชื่อบ้าง

ครับยาย แต่คงไม่ตกแล้วมั้ง ตกไปม่ะคืนแล้วหนิ

หน้าฝนแบบนี้ เอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก อย่าลืมติดร่มไปด้วยล่ะกัน

ค๊าบบบ - - - เออ ยาย ขอบคุณนะเรื่องหอมใหญ่อ่ะ

ยายผมก็ยิ้มให้ครับ แต่ตอนนี้ผมว่าผมสายแล้วล่ะ เพราะว่าเห็นมันยืนโด่ทำหน้าถมึงทึงอยู่ที่หน้าบ้านผม

มัวทำอะไรอยู่เนี่ย

เออๆๆ ดุจางว้อยผมพูดพลางรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้ามาอีกที ไอ้ผ้าผืนนั้นก็หายไปแล้วครับ O_o’’

แว๊กก ผีหลอกกรูอีกแระ


วันที่ 4 ของการมาเรียน ผมก็มาสายอีกตามเคย ไม่รู้เป็นแมร่งอาไร จนยามมันจำหน้าผมได้แระ

ซื้ดด ซืดดดดด

พรืดดด พรื้ดดดดดดดดด

โห เด็กเทบเป็นหวัดไอ้คิวปากเสีย

อ่า กรูเป็นคนนะ ไม่ใช่มึงหนิ ถึงไม่เป็นหวัดผมพูดแดกดันมันไป

อ้าวสาดดด แล้วกรูไม่ใช่คนซะงั้นแล้วมันก็เดินไปตบหัวไอ้ซัง

อิ๊กคิว ดูเด็กมึงเด๊ะ เด๋วนี้ปากกล้าขาแข็ง

เกี่ยวไรกะกรูอีกเนี่ยซังบ่นหลังจากโดนลูกหลง

เออ แล้วไปตบหัวซังมันทำไมอ่ะผมพูดจบ ไอ้คิวมันก็มองผมเขม็งเลย แล้วก็เดินกลับไปที่ที่ ไม่พูดไม่จา

เป็นเหี้ยไรมันน่ะผมกระซิบถามซัง

ไม่รู้มัน ช่างมันเหอะ เรียนๆไอ้ซังมันก็ทำท่าทางโกรธๆเหมือนกัน เอ้าเป็นไรวะทั้งคู่เลย

ครับ ชีวิตในช่วงแรกๆ ของการมาเรียน ก็ไม่ได้มีอะไรผาดโผนมากเท่าไร ก็คล้ายๆ กับที่เรียนที่โรงเรียนเก่าอ่ะล่ะ เพียงแต่ว่า ตอนนี้จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาในชีวิตด้วย ได้รู้จักการจีบหญิง แซวนั่นแซวนี่ ก็ได้มาจากไอ้คิว แล้วก็เพื่อนๆในกลุ่มอ่ะล่ะ แต่ในเรื่องการเรียนของผมก็เรียกว่าฉลุยอ่ะ ไม่ใช่เก่งอะไรมากมาย แต่ในเรื่องวิชาการบางที มันก็ง่ายกว่าโรงเรียนเดิมมาก ยกเว้นวิชาเดียวคือ เลข ที่ผมต้องคอยพึ่ง ซังมันตลอด

เฮ้ย นี่มันจะสอบกลางภาคแล้วนะ มึงไม่คิดจะอ่านหนังสือมั่งเลยเหรอซังมันเดินไปคว้าหนังสือการ์ตูนที่ไอ้คิวกะลังอ่านอย่างเมามันส์

สาดด เอาคืนมาไอ้คิวมันทำท่ากินเลือดกินเนื้อ แต่ซังมันก็โยนหนังสือมาให้ผม

ไปเอาคืนที่ปริ้นมันโน่นเอ้า โยนบาปให้กรูแระ

เออ คิว กรูก็ว่างั้นล่ะ มึงผ่านม 4 มาได้ไงวะ โดดตลอดพร้อมๆกับเปลี่ยนหนังสือจากมือซ้ายไปมือขวา ไม่ให้ไอ้คิวมันหยิบได้ แถมผมตัวสูงกว่ามัน มันก็เลยเอื้อมาหยิบไม่ถึง

เหี้ยยยยย พวกเมิง แกล้งกรู เด๋วต่อยคว่ำหรอกไอ้คิวมันโมโห แต่พวกผมก็ชินกับคำขู่ฟ่อๆ แล้วครับ มันเอาจริงเฉพาะคนอื่นๆ แต่กับเพื่อนมันเนี่ย ผมยังไม่เคยเห็นมันทำร้ายใครซักคน นี่เป็นข้อดีของมันอ่ะ

คืนหนังสือกูมาไอ้ปริ้นมันว่าแล้วก็ทำหน้าเอาจริงเอาจัง

ผมก็มองไปที่ซังที่กำลังปั่นงานอยู่ มันก็ทำหน้าแบบไม่ต้องคืน

เมื่อเห็นผมไม่คืน ไอ้คิวมันก็ทำท่าโกรธมากๆ แล้วก็คว้าหนังสือเรียน(ที่มีอยู่น้อยนิด) เดินไปทางโรงอาหาร

เฮ้ยมึง จะเข้าเรียนแล้วนะซังมันตะโกนบอก แต่ดูเหมือนคิวมันจะโกรธคับ ไม่ยอมพูดจา เดินตรงแน่วๆไป

ไอ้คิวมันจะรู้มั้ยวะ ว่าเพื่อนจะช่วยมันไปตลอดไม่ได้หรอก สัดแล้วมันก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

มึงก็เหมือนกัน ปริ้น เลขง่ายๆแค่นี้ก็ทำไม่ได้อ่ะอ้าว มาพาลกรู

แค่เลขวิชาเดียวเอง หยวนๆหน่อย อังกฤษก็ให้เมิงหรอกม่ะใช่เหรอผมทวงบุญคุณ

แล้ววิชาต่อมา ไอ้คิวมันก็ไม่เข้าครับ ทำให้ซังมันหงุดหงิดมากขึ้น

ไปไหนของมันวะ

เฮ้ย ซังใจเย็นๆหว่ะคบกันมาเกือบครึ่งเทอม พึ่งรู้ว่าซังมันไม่ค่อยหงุดหงิดอะไรง่ายๆแบบนี้นี่นา

ซักพัก มือถือผมก็สั่น ก็ค่อยๆก้มรับแบบไม่ให้อาจารย์เห็น

คับ

ปริ้น เรียนอยู่หรือป่าวเสียงโอ้ตครับ

อือ มีไร

เพื่อนปริ้นมันไปต่อยเด็ก ม.5 เข้า

ไอ้คิวอ่ะนะ ผมโพล่งขึ้นมาเสียงดัง จนอาจารย์หันมาหาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ?

ป่าวครับผมพูดแล้วมองไปที่ซัง

ไอ้คิวเป็นไรวะซังมันถาม

มีเรื่องกะเด็ก ม.5 หว่ะ ตอนนี้อยู่ห้องปกครอง

แม่ม เอ้ยยยยยเสียงซังสบถเบาๆ แล้วมันก็ลุกขึ้นขออนุญาตลงไปห้องน้ำ ด้วยความงุนงงของผมและเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรมันหรอก คิดว่าคงห่วงเพื่อนซี้มันอ่ะนะ

ทีนี้ก็เหลือผมกะเพื่อนในกลุ่มอีกสองสามคนที่ต้องนั่งกระวนกระวายใจ จนหมดคาบล่ะครับ ก็เลยวิ่งไปที่ห้องปกครอง ก็ปรากฏว่าไม่เห็นใครแล้ว ก็เลยกดมือถือไปหาไอ้โอ้ต

เฮ้ย บอกว่าห้ามใช้มือถือในเวลาเรียนอยู่ๆ พ่อ ก็โผล่มาจากไหนม่ะรู้ ผมเลยวิ่งกระโดดจากบันไดวิ่งปรี้ด ไปหาที่โทรสับใหม่

โอ้ต

เรียนอยู่

เออ ขอโทด แต่ไอ้คิวมันอยู่ไหน

ไม่ได้อยู่ห้องปกครองเหรอ

ป่าว

งั้นก็คงไปห้องพยาบาลมั้ง

แล้วเรื่องมันเป็นยังไงอ่ะ

ไม่รู้น่ะ แต่รู้สึกว่า คิวมันไปหาเรื่องกะน้องมันก่อน แล้วทีนี้ก็เลยพวกรุมเอา

โหย แล้วเป็นไรมากป่ะ

ก็ปากแตก แล้วก็ ..- - - ว่าแต่ ทำไมห่วงมันจัง

อ้าวทำไมถามแบบนั้นอ่ะ ก็เพื่อนทั้งคนผมพูดด้วยความหงุดหงิด แค่นี้ล่ะกาน

ว่าไงปริ้น คิวมันอยู่ไหนเพื่อนคนนึงที่ตามมาด้วยถาม

เออ สงสัยอยู่ห้องพยาบาลหว่ะ แต่มันคงไม่เป็นไรมากอ่ะ

อ้าว เชี่ย กรูก็ไปหามันไมได้อะดิเพื่อนคนนั้นบอก

ทำไมวะ

ก็กรูไม่ถูกกะครูในห้องพยาบาล

เออ งั้นมึงขึ้นเรียนเหอะ เด๋วกรูไปดูมันเอง

เออ ฝากดูด้วย ไอ้ซังก็ไปไหนก็ไม่รู้

อยู่กับไอ้คิวมั้งผมว่า ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ก็มันซี้กันนี่นา จะห่วงกันมากก็ไม่แปลก

ผมก็เดินไปห้องพยาบาล ที่อยู่ใต้อาคาร 3 ปกติก็ไม่ค่อยได้มาหรอก รู้แต่ว่าอาจารย์เฮี้ยบมากๆอ่ะ ไม่สมกะเป็นพยาบาลเลย แต่พอไปถึงก็ปรากฏว่า ห้องมันปิดประตูไปบานนึงแล้ว เดินเข้าไปในห้อง ก็ไม่มีใครอยู่ซักคน

ไปไหนหมดกันวะผมพึมพำเบาๆ แล้วก็เดินไปที่ห้องที่เอาไว้ให้นักเรียน นอนพักครับ ซึ่งมันจะแยกเป็นสองห้อง ชายหญิง ทางเข้าจะมีผ้าม่านกั้นไว้อ่ะ

กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามีเรื่องกับคนอื่นอีกไอ้คิว มึงก็ไม่เคยเชื่อกูอ่ะเสียงซังดังออกมาจากในห้อง

อ่าอยู่ในห้องนี่เอง กรูหาตั้งนาน ผมว่าพลางเดินดิ่งไปที่ห้อง

“… จะทำอะไรก็เรื่องของกูเสียงไอ้คิวดังลอดออกมา

เออ มึงจะทำอะไรก็ช่างมึง กูโง่เองที่เสือกเรื่องของมึงซังพูดเสียงสั่น

อ่ะ มันทะเลาะกันอีกแล้ว เสียงเริ่มดังขึ้น โชคดีที่ไม่มีคนอยู่ในห้อง ยกเว้นกระผม

มึงจะไปไหน เสียงไอ้คิวดังขึ้น พร้อมๆกันกับเสียงซังมันร้องโอ้ย เหมือนโดนกระชากแขน

เท้าผมหยุดกึกที่หน้าห้องครับ แบบนี้มันแปลกๆแล้วนะนี่

ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีมึงอยู่ไง - - - ปล่อยกูไอ้สัดดเฮ้ย มึงคุยอะไรกัน ช่วยเบาๆหน่อยได้มั้ย กรูกลัวเค้าได้ยินกันหมดว้อยยยย

คราวนี้ไอ้คิวมันพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

ซังมึงไม่รัก กูแล้วใช่ป่าว มึงถึงจะทิ้งกูไป


วิ้ว วิ้ววว (นึกถึงฉากห้องพยาบาลว่างๆ แล้วมีใบไม้ปลิว พร้อมกับเสียงลมแผ่วๆ)

ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองแดงซ่าน ถ้าให้เลือกได้ ผมยอมที่จะไม่เข้ามาในห้องนี้ แล้วก็ได้ยินสิ่งที่เพื่อนสองคนมันพูดกันหรอก ไม่ใช่รังเกียจ ไม่ใช่อิจฉา แต่เป็นเพราะ มันควรที่จะเป็นความลับของคนสองคนที่จะรับรู้กันแค่นั้นมากกว่า

เสียงในห้องพักเงียบไป จนผมใจหาย เลยค่อยๆแหวกผ้าม่านออกทีละนิดทีละนิด

ให้ตายซิโรบิ้น ผมไม่ได้ตอแหลนะ ไม่ว่าตอนนี้ผมจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่เป็นก็ตาม สิ่งที่อยู่ตรงหน้า เป็นภาพที่เพื่อนผมสองคนกะลังจูบกันอย่างดูดดื่ม โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคนๆนึงมองอยู่

ผมเห็นไอ้คิวมันค่อยๆจับซังพลิกตัวไปด้านล่าง แล้วก็ขึ้นทับไปบนตัว

เอื๊อกกกกกก ……….”ผมกลืนน้ำลาย กล้องวีดีโอ กล้องวีดีโออยู่หน่ายยยยยยยยย กรูจะถ่ายไปขาย เอ้ย ไม่ใช่ ผมยืนนิ่งเหมือนโดนหนัง x สะกด

จนต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อซังมันเหลือบมาเห็นผ้าม่านมันแหวกอยู่พร้อมกับคงเห็นมีคนแอบมองอยู่

เฮ้ยยย ใคร

ตัวผมรีบถอยหนีโดยอัตโนมัติ จนก้าวพลาดล้มลงเสียงดังตึง

อะ ไอ้ปริ้นเสียงไอ้คิวแหวกผ้าม่านมาเจอผมล้มอยู่

ชิบบบหายยยยย
มันจะคิดว่าผมรังเกียจมันป่าวนี่ ?

ผมคิดในใจวนแล้ววนอีก ผมไม่ได้รังเกียจมันนะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอะไรก็เหอะ แต่ แต่ทำไมผมดันไปวิ่งหนีมันแบบนั้นล่ะวะ

- ดันไม่รับโทรสับมันแบบนั้น -

- กดตัดสายซังมันแบบนั้น -

ความรู้สึกผิดพลาดมันกดให้ผมจมอยู่กับที่นอน ไม่อยากจะลุก อยากจะขยับไปไหน ผมรีบกดเปิดมือถือ แล้วก็รอ แล้ว รอเล่า ให้ซัง หรือไอ้คิวโทรกลับมา แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาเลย ผมชักเริ่มเครียดเมื่อโทรไปหาซังแล้วมันก็ปิดมือถือ เหมือนกัน

มันคงเครียดกว่าผมร้อยเท่า มันยิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย (พอกันกับผม) ว้อยยย ทำไมกูทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลยวะ

ปริ้น นอนยัง

ยัง ….. เข้ามาดิโอ้ต

โอ้ตมันก็เปิดประตูเข้ามา แล้วก็เดินมานั่งปลายเตียง

เป็นไร มีอะไรอยากจะบอกโอ้ตมั้ย

มีอะไร ? … ไม่มีอ่ะผมปากแข็งคับ

โอ้ตมันดูไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน ที่ได้ยินผมพูดแบบนี้

งั้นถ้าปริ้นไม่มีอะไรจะบอก แต่โอ้ตมีเรื่องจะบอกปริ้นอยู่อย่างนึงว่าแล้วมันก็ลุกขึ้นเดินมาจับไหล่ผมไว้

“… คนที่เป็นเพื่อนกันน่ะ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาแค่วันสองวันแล้วถึงเรียกว่าเพื่อนหรอกนะ - - -ผมรู้แล้วคับ ว่าโอ้ตจะพูดเรื่องอะไร

“- - - ถ้าเพื่อน ไม่ยอมรับในสิ่งที่เพื่อนเป็น …….. สิ่งที่เพื่อนรัก ……….. สิ่งที่เพื่อนทำ เค้าไม่เรียกว่าเป็นเพื่อนกันหรอกแล้วมันก็เอามือมาลูบหัวผมแบบปลอบๆ
ม่ะ ม่ะ ไม่ใช่นะโอ้ตผมเริ่มรู้สึกว่า มีก้อนสะอึกอยู่ที่คอ กว่าจะพูดแต่ละคำมันช่างยากเย็น

เราอ่ะ เรา - - -น้ำตาผมหยดลงบนหัวเข่าตัวเอง ไม่เคยเกียดอะไรพวกมันเลยนะ ไม่เคยเลย ฮึก ฮึก

อือ …” มันพูดแค่นั้น แต่ภาษากายที่มันทำอยู่ ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาก

แค่ .. ทำตัวไม่ถูก …. แค่นั้นเอง โอ้ตเชื่อเรานะ ปริ้นไม่ได้เกียดอะไรมันเลยผมจับแขนโอ้ตเขย่าๆ แล้วก็มองหน้ามัน ให้มันรู้ว่า สิ่งที่ผมพูดมันจริงใจแค่ไหน

อือ ไม่เป็นไรหรอก คิดแบบนี้ก็ดีแล้วโอ้ตมันยิ้มบอกผม แล้วก็เอามือสองมือมาปาดน้ำตา

พรุ่งนี้ก็ไปคุยกะสองคนนั่นให้รู้เรื่องล่ะกัน …. แล้วร้องไห้ทำไมฟ่ะ เรื่องแค่นี้เอง

ร้องที่ไหนวะ วู้ผมว่าพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว ยางอายเริ่มเข้ามาครอบงำแระ

วันรุ่งขึ้น ใจผมก็ยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวครับ โอ้ตมันบอกว่า เมื่อวาน ซังโทรมาหา แล้วก็ปรึกษาเรื่องที่ผมปิดมือถือ ไม่ยอมคุยกะมัน โอ้ตบอกว่า รู้ว่าซังเนี่ย มันมีความสัมพันธ์อะไรกะไอ้คิวตั้งนานแล้ว ซังมันก็เลยให้โอ้ตมาคุยกะผมว่า จะเอายังไง มันไม่สบายใจมาก

ก็คุยกันให้รู้เรื่องล่ะกันโอ้ตบอกผมก่อนที่จะแยกไปเข้าแถวห้อง พอมาถึงแถวห้องผม ก็ปรากฏว่าไอ้คิว กะซังไม่ได้มาเข้าแถวคับ เอาแล้วดิกู ใจไม่ดีแระ

พอขึ้นคาบ 1 พวกมันก็หายหัวไม่มาเรียนเหมือนเดิม ไอ้คิวอะ ปกติ แต่ซังนี่ดิ มันไม่เคยขาดเรียนเลย ใจผมแป้วไปถึงตาตุ่ม โทรหาซังมันก็ไม่ติด ส่วนไอ้คิวไม่มีมือถือคับ เลยติดต่อมันไม่ได้

จนเวลาล่วงมาตอนกลางวัน ก็ไม่เห็นเงาหัวของไอ้สองตัวนั่นเลย เพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

เฮ้ย โป้ง กูไม่เรียนคาบต่อไปนะผมพูดแบบเสียไม่ได้

อ้าว เป็นอะไร

กูเซ็งไงไม่รู้วะ ไปนอนหลังเขาดีกว่า

เออ ระวังพ่อมาตรวจล่ะ

ผมพยักหน้า แล้วก็เดินลงจากอาคารเรียน มองซ้ายมองขวาปลอดคน ก็เลยหามานั่งที่ม้านั่งยาว บ้าชะมัด ไอ้เวลาที่อยากเจอ มันก็หายไปไหนวะ เซงเลยกู แล้วหัวสมองผมก็แล่นกลับไปที่ห้องพยาบาลกับเหตุการณ์ม่ะวานอีกรอบ

ซังมึงไม่รักกูแล้วใช่ป่าว มึงถึงจะทิ้งกูไป

สลับกับภาพที่มันสองคนกำลังจูบปากกันอยู่ อ่า จะว่าไป มันก็ดูเหมาะสมกันดีคับ อีกคนดูเถื่อนๆแมนๆ อีกคนขาวใส หน้ารัก

มโนภาพผมกลับค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ว่าถ้าเหตุการณ์ที่เหลือต่อจากนั้นคืออะไร

ไอ้คิว นี่มันห้องพยาบาลนะมึง เดี๋ยวคนมาเห็นเข - - -คิวมันค่อยๆบรรจงประกบปากกับซังอย่างแผ่วเบา จนตัวมันกระตุกหน่อยๆ ก่อนจะค่อยผ่อนคลายลงตามลำดับ

อือ คิว …”

คิวมันค่อยๆจับซังพลิกตัวไปด้านล่าง แล้วก็ขึ้นทับไปบนตัว ท่อนล่างของมันเริ่มบดเบียดกันอย่างรุนแรง

ไหนว่าไม่มีอารมณ์ไงไอ้คิวถามเสียงกระเส่า แข็งเชียวมึงพร้อมกับโน้มตัวไปดูดปากกับซังอีกรอบ


ปากข้างนึงของมันก็จัดการไล้ลิ้นไปบนหัวนมของไอ้ซังจนมันสั่นสะท้าน มืออีกข้างก็เลื้อยไหล่ไปบริเวณกลางลำตัวของซัง

ซี้ดดดด คิว กูเสียววว

เสียงนั่นกลับทำให้ไอ้คิวฮึกเหิมชอบกล พลางขบกัดบริเวณหน้าอกจนร่างหนุ่มตี๋สั่นสะท้าน

ปริ้น มึงเสียวมากป่าวเสียงคิวถามผมพลางรูดเล่นไอ้ตัวเขื่องที่อยู่ด้านล่างด้วยความถนุถนอม

อือ กูจะไม่ไหวแล้ว ไอ้คิวผมว่า พลางเอามือโอบคอไอ้คิวลงมาจูบอย่างรุนแรง

จะทำอะไรก็รีบทำเหอะมึง กูจะ - - - อ๊อกกก

อยู่นี่เองมึงไอ้ปริ้นเสียงไอ้คิวตัวจริงทำเอาผมสะดุ้งกับภาพจินตนาการล้ำลึก เฮ้ย ทำไมคิดถึงไอ้คิวกะซังอยู่ดีๆ กับกลายเป็นไอ้คิวกับผมไปได้ไงวะ

เออ หายไปไหนมาทั้งวันผมพูดกับมัน แล้วค่อยๆยกตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก (ไอ้น้องชายมันกะลังเคารพธงชาติอยู่)

คือ เรื่องเมื่อวาน - - -ผมกะมันพูดเกือบพร้อมกัน

เออ เรื่องเมื่อวาน กูขอโทษนะผมพูดขึ้นมา แล้วจากนั้น คำพูดของผมก็พล่างพลูออกมา เหมือนเขื่อนแตก จนไอ้คิวทำหน้าเหวอแดก เพราะมันคิดว่าผมคงจะรับไม่ได้ ถึงได้วิ่งตูดเปิดไปม่ะวาน

เออ มึงก็เล่นปิดมือถือแบบนั้น ไอ้ซังมัน กลุ้มใจตายห่า ไอ้คิวบ่นใส่ผมหน้าเครียด เนี่ย เมื่อคืนมันร้องไห้กะกูทั้งคืนเลย ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน กลัวว่ามึงจะไม่เข้าใจมัน

ผมหน้าเสียขึ้นมาอีกรอบนึง คิดแล้ว ไอ้ซังมันต้องคิดมาก

แล้วมีใครรู้เรื่องมึงกะมันป่ะวะผมถาม ไอ้คิวมันก็บอกว่า มีแค่ไอ้โอ้ต แค่นั้นที่รู้ เพราะว่า ซังมันสนิทกะโอ้ตมานาน มันเลยเครียด

แล้วนี่ซังมันอยู่ไหนอ่ะ

นอนอยู่บ้านกู จริงๆมันอยากจะคุยกะมึงด้วยซ้ำ แต่กูบอกว่า กูจะมาดูลาดเลาก่อน

ดูลาดเลาทำเหี้ยไรวะผมสงสัย

อ้าว ก็เผื่อมึงรับไม่ได้จริงๆ กูจะทำให้มึงรับได้ก่อนไงมันพูดแล้วก็หัวเราะมีเลศนัย

ไอ้สาดดด มึงจะทำไรกูได้วะผมพูดหัวเราะแบบเจือนๆ

กูก็ - - -มันพูดไม่ทันจบ มันก็เดินมาข้างหลังที่นั่งที่ผมนั่งอยู่

ทำงี้ไงว่าแล้วมันก็เข้ามากอดผมทางด้านหลัง แล้วเอาหน้ามันมาคลอเคลียๆอยู่ตรงคอผมอะ โคตรสยิวกิ้วเลย

เหี้ยย กูขนลุก ไอ้สัดดดดดผมพูดพลางดันหน้ามันไปให้ห่างๆ แต่แรงมันเยอะกว่าผมคับ มันก็เล่นของมันต่อ

ขนลุก แล้ว Kลุกป่าววะมันก็เอื้อมมาจะจับKผมคับ แต่ผมเอามือบังทันก่อน ไม่งั้นมันได้จับอนาคอนด้าแน่ๆ

เชี่ย มึงเล่นของสูงแล้วมันก็ผละออกจากตัวผม หัวเราะชอบใจ เย็สสสสเข้เจงๆ

เออ งั้นเด๋วพรุ่งนี้กูค่อยคุยกะซังล่ะกัน ฝากบอกมันด้วยอ่ะ ว่าไม่ต้องกังวล กูรับพวกมึงได้

เหรอ กูก็อยากลองเหมือนกานหว่ะ ตูดเมิงจารับได้เจงๆป่าวอ่ะ ไอ้นี่ยังไม่เลิก

เชี่ยล่ะมึง ควายอย่างมึงกูไม่เอาหรอกว้อยยยผมตอกกลับให้มันรู้สถานภาพตัวเอง

อย่างกูไม่ได้ แล้วอย่างไอ้โอ้ตได้ป่าววะ

เชี่ย จุก …. กว่าเดิมอีกกู !?





ติดตามชมตอนต่อไป

ปล. ยังไม่ได้จัดเรียง เนื่องจากด่วนแต่งนิยายหลายเรื่อง

ตอนที่4 ก็มาแล้วนะ

ทำไมต้องร้องไห้ด้วย !!โอ้ตถามเสียงเครียด

“…………”

ถามแล้วทำไมไม่ตอบ ไอ้คนเห็นแก่ตัวโอ้ตมันตะคอกใส่อีกชุด แล้วก็เดินเข้ามาเขย่าตัวผม

เจ็บ ….. ”

ทำสำออยเหรอ โอ้ตโดนหนักกว่านี้ ยังไม่พูดซัก หือออ !! มันจับจนแขนชาไปหมด ผมตัวสั่นน้อยๆ

จากนี้ไปก็ต่างคนต่างอยู่เหอะ ปริ้นโอ้ตตะโกนใส่หน้า

ปล่อยยยยยยยยยยยผมตะโกนสุดเสียง

พลั๊กก

แหง่ก แหง่ก

ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างล่าง พยายามยันตัวขึ้นพร้อมกับสะบัดหัวให้หายงัวเงีย นาฬิกาตอนนี้บอกเวลาตี 5 กว่าแล้ว

โอ้ตมันไม่ได้มาหาผมหรอก โอ้ตไม่ได้เข้ามาอาละวาดใส่ ผมแค่คิดมากแล้วก็ผล่อยหลับไปเท่านั้นเอง ตอนนี้สภาพตัวเองดูไม่ได้สิ้นดี หลับไปทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนเพราะไม่ได้กินข้าวเย็น แถมเสื้อที่จะใส่ไปวันนี้ก็ยังไม่ได้ปักชื่ออีกต่างหาก เฮ้อ

ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นผมก็รีบจัดการตัวเองให้เสร็จ เสื้อก็ใส่แบบไม่ได้ปักชื่ออะไรทั้งนั้น รู้สึกเซ็งมากมายครับ เหงาแบบบอกไม่ถูก ตั้งแต่มาที่นี่ ผมพึ่งรู้สึกตัวเองอยู่คนเดียวจริงๆ ก็ตอนนี้หล่ะ อยากกลับบ้าน แต่ ผมก็ไม่มีบ้านให้กลับแล้ว

ก็ที่นี่ เป็นบ้านของผม

อ้าว แล้วไม่รอไปพร้อมเจ้าโอ้ตหรือปริ้นยายผมตะโกนถามเมื่อเห็นผมเดินอย่างเงียบๆ ไปทางประตูบ้าน โหย เรียกซะดัง

ชู่ ชู่ เบาๆก็ได้ยายผมทำท่าจุ๊ๆ ไม่อยากให้ไอ้โอ้ตรู้ว่าแอบไปก่อน ทำไงได้ง่ะ ผมไม่อยากเจอหน้ามันนี่นา อืม อย่างน้อยก็ตอนนี้แหละ

แล้วไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอสงสัยยายจะไม่เข้าใจรหัสมอสของผม บอกให้เบ้า เบา ผมก็หันไปทางบ้านโอ้ต ก็เงียบคับ ตอนนี้ก็พึ่งจะ 6 โมงเอง เช้ามากมาย

งั้นผมไปก่อนนะยาย หวัดดีคับ

ไปดีๆนะลูก

คับ

ระหว่างทาง เกือบชั่วโมงของผม ไม่มีความรู้สึกง่วงเลย ในหัวก็คิดไปต่างๆนาๆ ว่าจะทำไงต่อดีวะเรื่องทะเลาะกะโอ้ต ไหนจะเรื่องเปลี่ยนห้องเรียน ไหนจะต้องวางตัวกะคนในห้องอีก เครียดๆๆๆๆ พอถึง โรงเรียนก็โดนยามกักตัวไว้คับ แบบว่าเสื้อ นร ไม่เรียบร้อยไง มีแต่ตราโรงเรียนโผล่มา

ตอนนั้นเรื่องโอ้ตผมไม่เครียดแล้วล่ะ มาเครียดเรื่องโดนเรียกขึ้นห้องปกครองเพราะว่าเสื้อไม่เรียบร้อยแทน เซ็งมาก เรื่องมาก กรุงเทพไม่เห็นต้องมาปักชื่อให้วุ่นวายเลย วุ้ย แล้วก็มีพวกแต่งตัวไม่เรียบร้อยจริงๆ ขึ้นมาอีก 4 -5 คนอ่ะ อาจารย์เค้าก็ไล่ถามทีล่ะคน พอดีว่าผมเป็นเด็กใหม่ ก็เลยอ้างโน่นนี่ ประกอบกับผมหน้าตาเรียบร้อยไง 55 เลยแบบว่ารอดตัวไปอย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องถูกจดชื่อให้พรุ่งนี้มาตรวจใหม่ = =’’

ฮัลโล ยายเหรอคับ ยายแถวบ้านมีที่ปักเสื้อป่ะ คือบลาๆๆๆ ผมก็โทรไปให้ยายช่วยจัดการหาร้านปักให้ (ซึ่งน่าที่จะทำตั้งแต่แรกแล้วล่ะ) ยายก็บ่นให้ฟังอีก 1 กัณฑ์ พอผมวางปั๊บ ก็ได้เรื่องปุ๊บ

เฮ้ย ไอ้ซีดนั่นน่ะ ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน !! อาจารย์ปกครองตะโกนมาหลังจากผมก้าวออกจากห้องได้ไม่ถึง 3 ก้าว คือ ผมโทรหายายหน้าห้องปกครองเลย อ้าว กูไม่รู้นี่หว่า แล้วมาเรียกกูว่าไอ้ซีด โห โคตรเคือง

ตอนเย็นมาเอาคืนล่ะกันอาจารย์เค้าว่าแบบนั้น แล้วก็ตะเพิดให้ผมรีบไปขึ้นเรียน

วันนี้เปิดเทอมวันที่ 2 ผมก็เข้าสายครั้งที่ 2 แถมโดนเรียกขึ้นห้องปกครองด้วย เสียเครดิตหมดเลยตู วันนี้โหดกว่าวันแรก เพราะว่าคาบก่อนพักเป็นวิชาฟิสิกส์ !! ผมก็นอนฟังอาจารย์สอนไป หลับไป เพราะดันตื่นแต่เช้า ไม่รู้เรื่องเร้ยยยย แล้วผมก็คิดถึงโอ้ตขึ้นมาคับ แมร่ง ไม่รู้ตอนนี้ทำไรอยู่ เรียนวิชาไรอยู่ว้า แล้วทำไมกูออกมาก่อน ไม่คิดจะโทรถามกูบ้างเลยเหรอไง เหอะ แต่มันจะคิดถึงเราทำไมวะ เอ๊ะ - - ออดแล้วว้อยย เย้ เย้

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง

เออ เธอ เธอมีคนมาสะกิดผม ตอนที่กำลังเก็บข้าวของลงกระเป๋า

ไปกินข้าวกับพวกเรามั้ยคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมนั้นเอง รู้สึกว่าจะชื่อ แอน อะไรนี่ล่ะ (ผู้หญิงไม่ค่อยอยากจำชื่อ แฮะๆ ก็ไม่ได้ขนาดน้านนนน)

อ่อ เอาดิผมยิ้มตอบให้ ก็ยังดีคับ ผมไม่ต้องมานั่งกินคนเดียวเหมือนเมื่อวาน ตอนที่นั่งกินข้าวไป แอนกะเพื่อนๆอีกสองสามคนก็ชวนคุยกันหลายเรื่อง แต่ส่วนมากก็จะพูดเรื่องในโรงเรียนนี่ล่ะ ผมก็ฟังไป กินไป แล้วก็ต้องสะดุ้ง เพราะว่าเหมือนมีอะไรเย็นๆมาอังที่แก้ม

เฮ้ยยยตกกะใจสุดขีด

ไง มาไม่ทันไร ก็มีสาวๆมาตอมแล้วไอ้พี่ท็อปนั่นเอง

ไม่ใช่ขี้ วู้ผมพูดแบบอารมณ์เสียที่โดนแกล้ง แล้วก็มาแซวด้วย ม่ะชอบๆ

เออ นั่งด้วยดิ ไม่มีโต๊ะแล้วว่าแล้วก็มานั่งข้างๆผม

แล้วไม่เห็นยกอะไรมาเลยอ่ะผมถามด้วยความสงสัย ก็พี่แกมีแต่น้ำขวดเดียว

ฝากไอ้โอ้ตซื้ออยู่ เดี๋ยวมันยกมา

เหรอ ….” เวน ในใจตอนนี้บอกไม่ถูกว่าดีใจ หรือว่า หนักใจกันแน่ครับ อยากเจอหน้านะ แต่ทำหน้าไม่ถูก โอ้ยงง แล้วก็ไม่ต้องให้ผมงงนาน เพราะว่า พี่ท็อปก็ยกมือเป็นโบกให้โอ้ตมันเห็น ผมก็แกล้งทำของตกคับ แล้วก็แอบเหลือบตามองจากข้างล่าง (เรื่องเนียนยกให้กรู)

โอ้ตมันก็เดินมา สาบานได้ว่าผมเห็นมันชะงักไปแว่บนึง ก่อนที่จะทำหน้าตายเดินมานั่งฝั่งตรงกันข้าม เยื้องกันเล็กน้อย ผมก็ไม่ทำไรคับ นั่งจ้วงๆข้าวในจาน

แอนมันก็เห็นผมกินแปลกๆ

หิวมากเหรอปริ้น ทำไม - - -

หิวดิ ก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนผมจงใจเน้นเสียงนิดหน่อย แต่ไอ้โอ้ตก็กินหน้าตาเฉยคับ สายตาก็ไม่ได้มองมาทางผมเลย แล้วอยู่ๆมันก็พูดกะพี่ท็อป

เออ ข้าววันนี้เป็นไรวะ ไม่อร่อยเลย สู้ผัดมาม่าที่กูกินเมื่อคืนก็ไม่ได้แล้วมันก็ส่งสายตามาทางผม

โห จี้ดดดดดด

เด๋วปริ้นไปห้องสมุดก่อนนะผมหันไปบอกทางแอน แล้วก็ลุกออกไปเอาจานวางที่ราง ในใจตอนนั้นโคตรเจ็บใจอ่า ไม่รู้ทำไม ว่าแต่ห้องสมุดมันอยู่ไหนวะ กูไม่รู้จัก =*=

ตอนผมดูตารางสอนครั้งแรก ก็รู้ว่า โรงเรียนนี้ดีอยู่อย่างคับ เพราะว่ามันมีคาบว่างด้วย แล้วก็มีเยอะพอควร เพราะว่าเริ่มเรียนตั้งแต่ แปดครึ่ง กว่าจะเลิกก็ สี่โมงเย็น ไม่เหมือนในกทม มันก็เลยมีเวลาให้มีคาบว่างไง ก่อนจะหมดเวลาพักเที่ยงแป็บนึง

นายxxxxxx มาพบอาจารย์ที่ห้องวิชาการในเวลานี้ด้วย

อ่า เป็นไปตามคาดคับ อาจารย์ที่วิชาการเรียกผมไปเพราะว่า ตอนนี้สามารถเปลี่ยนให้ผมไปลงห้องสายศิลป์-คำนวณได้แล้ว อาจารย์ก็ส่งตารางสอนมาให้ แล้วก็บอกว่าวันนี้ให้ผมกลับไปเรียนที่ห้องเก่าก่อน แล้วค่อยย้าย หุหุ เด็กดีอย่างผม มีเรอะจาเข้า 55 โดดซิคับ ว้าว ตั้งครึ่งวัน

ข้อดีของโรงเรียนนี้ดีอีกอย่างคือ เพราะมีคาบว่างนี่ล่ะ เกือบตลอดทั้งวันก็จะมีนร เดินไปเดินมา คับ ไม่ได้แบบว่าเหมือนบางโรงเรียนที่ขึ้นตึกกันหมด ผมก็เลยเนียนเดินไปเดินมา ไปห้องโน้น ห้องนี้ได้ แถมยังไม่ค่อยมีคนคุ้นหน้าเท่าไร เค้าก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

ผมก็หลบไปนั่งอยู่หลังอาคาร 5 ซึ่งมันจะเป็นสวนป่าแดงข้างหลังโรงเรียน ที่มันติดๆกะภูเขานั่นล่ะ หมดคาบ 5 ผมก็ย้ายที่คับ ไปนั่งอยู่หลังตึก 1 แทน ตรงนี้มันจะมีต้นไทร (หรือต้นอะไรซักอย่าง) ใหญ่มากๆอยู่ มีม้านั่งพร้อม ก็ได้เวลานอนของผมแระ ^^ (เหี้ยมาก)

หลับไปได้แป็บนึง ก็รู้สึกตัวเพราะได้ยินเสียงคนพูดคับ

เฮ้ย เฮ้ย ไอ้ตี๋ ที่กู

โอ้ว ทำไมไม่มีใครคิดจะเรียกชื่อกรูเลยเหรอวะ

ไหนที่ใครวะผมงัวเงียๆลืมตาขึ้นมา ก็เจอไอ้คิวนั่งโด่อยู่ตรงม้านั่งอีกข้างนึง

ที่กูมันก็ชี้ไปที่ตัวมันคับ เชี่ย กรูจะโดนต่อยมั้ย ดันไปพูดหาเรื่องมัน

โดดเรียนเหรอมึงมันว่าพลางหยิบซอง Mild seven ขึ้นมา

ไม่ได้โดด

เชี่ยมากนะมึง โดดแล้วโกหกอีก ม่ายไหวๆมันก็พูดไป แกะซองไป ห่า แล้วมึงม่ะโดดเหรอเนี่ย เลวกว่ากูอีกสูบบุหรี่ด้วย

ดูท่าทางเหมือนมันจะพูดหาเรื่องผมแฮะ เออ กูไปก็ได้วะ ผมทำท่าจะลุก

จะไปไหนวะ นั่งเป็นเพื่อนก่อนเด๊

จะไปห้องน้ำแล้วก็ส่งสายตาเหยียดหยามไปทีนึง ประมาณว่าครายเพื่อนมรึงว้า แต่ก็แป็บเดียวจริงๆ เพราะกลัวมันต่อย แฮะๆ แล้วผมก็เดินไปฉี่ในห้องน้ำ ซึ่งตรงนี้มันจะอับคนมากๆแต่ตอนนั้นไม่ได้ทันสังเกตว่ามันก็เดินตามหลังมาด้วย ผมเข้าซอง มันก็เข้าซองด้วยคับ แต่ยืนไม่ติดกันนะ

มองไร

มองไร ยังไม่ได้มองเชี่ยไรเลยผมชักรู้สึกรำคาญคับ คนไม่ได้มอง หาว่ามองมันเฉยเลย ไอ้บ้า

โห พูดเชี่ยเป็นด้วย ? อ่ะ ดูดป่ะ

ดูดไร

เอ๊ะ ดูดKกรูม๊าง สาดดดเออก็จริงคับ มันยื่นบุหรี่ให้ ก็ไม่น่าถามแบบนั้นเนอะ นี่ล่ะนิสัยคนไทย

ผมก็ส่ายหน้าคับ ไม่เอาดีกว่า ไม่เคย

ก็เคยซะเซ่ะ ไม่เหม็นหรอกน่า ไม่ใช่กรองทิพย์แล้วมันก็ยื่นอันที่มันดูดอยู่ให้ผมลอง

เอ้า ผู้ใหญ่ให้ของก็ร๊าบบบบบบบ

โอ้ว อาจจะมีคนคิดว่า ทำไมผมไม่ปฏิเสธ มันยากคับ มันยากมาก ในที่แบบนั้น แล้วท่าทีมันไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะ ถ้าผมเกิดทำอะไรให้ไม่พอใจ กลัวมันจะไม่ปล่อยให้ผมลอยนวล ก็เลยยอมๆไปก่อน

ฟืดดดดดด

แค๊กๆๆๆๆๆๆๆ

“555 ใครเค้าดูแบบไหนว้า ไม่เป็นเลยไอ้นี่ไอ้คิวมันขำใหญ่เลยคับ สาดดด แกล้งกูนี่หว่า เลือดขึ้นหน้าแล้วผม ฆ่าได้หยามไม่ได้ว้อย

มานี่ ต้องทำงี้แล้วมันก็สาธิตแบบช้าๆ สูดยาพิษเข้าปอด

ฟืดดดดด แล้วก็คายสารพิษออกมาทำร้ายคนรอบข้าง

เอ้า ลองๆ

ผมก็บ้าจี้รับมาลองอีกคับ เหอๆ = =’’

เออ เก่งๆๆ - - -

เฮ้ย ใครดูดบุหรี่ในห้องน้ำ

เชี่ยแล้วคับ เสียงอาจารย์ปกครอง ไอ้คิวทำหน้าตื่นบอกให้ผมหลบไปในห้องน้ำ

ล่ะ แล้วนายอ่ะทำไมผมต้องเป็นห่วงใครด้วยวะ จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว

ช่างกูเหอะแล้วมันก็ถีบส่งผมเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็ปิดประตูล็อกจากด้านนอกคับ จะได้เหมือนกะว่าไม่มีใครเปิดใช้ ซักพักก็มีเสียงโหวกเหวก ข้างนอก

มีใครสูบกับมึงอีกป่าวเนี่ยเสียงอาจารย์ดังขึ้น

คนเดียวจานพอดีเคียดๆ ก็เลยลงมาสูบ

ป๊าบบ เสียงไอ้คิวโดนฟาดด้วยมือคับ ตอบกวนตีน

มาปากดีนะไอ้คิว มึงจะโดนให้ออกอยู่แล้ว เฮ้ย ไปดูในห้องน้ำดิว่ามีใครหลบอยู่ป่าวแย่แหล่วววว

เสียงเปิดห้องไล่มาทีละห้อง ทีละห้องคับ ใจผมเต้นไม่เป็นจังหว่ะเลย แก้ตัวไม่ออกด้วย เพราะว่ากลิ่นบุหรี่ติดตัวผมเลยอ่ะ แง๊ๆๆๆ

โดนยายฆ่าแน่

จนผมได้ยินเสียงเปิดกลอนจากด้านหน้าห้องที่ผมหลบอยู่ เหงื่อหยดเป็นทาง แต่ตัวผมกลับเย็นเฉียบ

แกร๊กกก

ปริ้น ….?” กลายเป็นไอ้โอ้ตคับ เปิดประตูมาเจอผม ดูสีหน้าก็รู้ว่ามันตกใจมากเลย

เออ …” ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ตอนนี้ผมยอมให้อาจารย์เปิดมาเจอดีกว่าให้โอ้ตมาเจอผมในสภาพแบบนี้

ดูดบุหรี่เหรอไม่ต้องรอให้ผมต้องตอบคับ มันก็กระชากตัวผมออกมาจากห้องน้ำเลย ออกมาข้างนอก พวกอาจารย์ก็พาไอ้คิวเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้

เออ โอ้ต คือ ไม่ใช่

ดูดบุหรี่เหรอ ? ” มันถามซ้ำคับ ตอนนี้สีหน้ามันเรียบเฉยมาก เหมือนอาจารย์ที่ห้องปกครองเลย มันไม่ใช่พี่ชายพ๋มแล้ว

เออ ก็ไอ้นั่นมันให้ลอง ก็ - - -

ไอ้เหี้ยนั่นให้ลอง ก็ลองเหรอ !!!!!! ไอ้เด็กไม่มีหัวคิดเจ็บคับ เจ็บโคด โอ้ตมันตะโกนใส่ อารมณ์คงสุดๆแล้วอ่ะ เออ จาด่าอาไรก็ด่าเลย

ขอโทษผมจ๋อยคับ ไม่มีอะไรนอกจากจ๋อยสนิท ยืมก้มหน้าเงียบ

พ่อแม่ให้มาเรียนหนังสือ ก็โดด - - -ตัวผมหดไป สองนิ้ว

โดดไม่พอยัง หัดสูบบุหรี่ อะไรนะเนี่ย อาไร อ่อ เซเว่นด้วย - - -ตัวผมหดไปอีก สี่นิ้ว

ผมก็เงียบคับ มันก็โกรธจนเหนื่อยแล้วมั้ง รู้สึกว่าสงบได้บ้าง

จะให้ทำยังไง บอกมา

“- - -”

เอ้า !!!! พูดเซ่ !!!!! โอย มึงไม่ต้องตะโกนก็ได้ กรูรู้สึกผิดจนจะร้องอยู่แล้ว

“…ก็ เรา เราทำผิด จะทำอะไร ก็ทำเถอะ

โอ้ตฟังผมพูดแล้วก็เงียบไปพักนึง เหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมคาดเดาไม่ได้เลย ใจเต้นตึกตักๆ

ไปเอากระเป๋ามาไปโอ้ตบอกผมเสียงเฉียบ

ผมก็วิ่งไปตามคำสั่งเลยคับ ไม่มีบิดพลิ้ว เหอๆ แล้วมันก็เดินนำไปห้องปกครองฮะ

อ้าว นึกว่าจาปล่อยกรูซะอีก แหง่มๆ

แต่ผิดคาดคับ โอ้ตมันบอกว่าให้ผมรออยู่ที่หน้าห้อง ไม่ต้องขึ้นไป ในห้องผมได้ยินเสียงฟาดเพี้ยะๆ สงสัยจาเป็นไอ้คิวแน่ ซักพัก โอ้ตก็เดินถือกระเป๋าออกมา

ป่ะ กลับบ้าน

โห ตอนนั้นนะ เหมือนยกภูเขาออกจากอกไปครึ่งลูก อยากจาโดดกอดมันเลยคับ หุหุ แต่ก็ต้องสงบจิตสงบใจนิดส์นึง เราก็ไปนั่งรอรถเหมือนกะวันแรก เพียงแต่คราวนี้ พอรถมาปั๊บ โอ้ตมันก็ลากขึ้นรถเลย วันนี้โชคดีมากๆคือไม่เบียดเท่าไร แต่ก็ต้องยืนอยู่ดี

จะได้ไม่โดนด่าอีก …” มันพูด โดนฟาดก็โดนฟาดคนเดียว ไม่ยุติธรรมเล้ยคราวนี้มันพึมพำๆให้ผมได้ยิน ก็แอบยิ้มนิดนึง เลวม่ะ 55

แล้วเจ็บมากป่ะ เมื่อคืน

เจ็บดิแล้วมันก็เอามือไปลูบก้นมันเบาๆ

ไหนดูหน่อยดิ๊ เป็นรอยป่าวว่าแล้วผมก็เนียนทำเป็นจับที่สะโพกมันคับ ไม่ได้ไปจับตูดมันหรอก เหอๆ ไม่ลามกขนาดนั้น

ทะลึงแล้ว ลามปามๆ เดี๋ยวปั๊ดไม่คืนให้ซะนี่แต่มันพูดก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรผมนะ

คืนอะไร ? ”

อ้าว ก็นี่ไงแล้วมันก็ล้วงไปหยิบมือถือที่ผมโดนริบไปเมื่อเช้า

หรือว่าไม่อยากได้คืน จะได้เก็บไว้เอง

เป็นเล่น แพงเฟ้ย แพงแล้วผมก็แย่งกลับมาจนได้คับ มันก็ยิ้มๆ

ขอบใจนะโอ้ต

อือ ….”

ที่ทำเนี่ยผมอ้อมแอ้ม เพราะว่า เป็นหน้าที่ป่ะ

อ่ะนะ ผมถามหาเรื่องไปมั้ยเนี่ย = =’’ แต่มันดูไม่โกรธแฮะ

น้องทั้งคน เป็นพี่ก็ต้องดูแลน้องดิแล้วก็เอามือมายี้ๆหัวผม จนเป๋ไปเลย เอ๊ะ รู้สึกแปร๊บเล็กๆ

เฮ้ย เด๋วผมเสียทรง

“555 มีผมอยู่แค่เนี้ย

จ๊อกๆๆ อ่ะ เสียงท้องผมร้องขัดจังหว่ะ เสียมู้ดหมด แสดดด

หิวอีกแล้วเหรอโอ้ตยิ้มหวานถาม

อะดิ ว่าแต่ ….” ผมทำหน้าทะเล้นใส่ อยากกินมาม่าผัดหว่ะ ว่ามันอร่อยจิงป่าว

ได้ผลคับ ไอ้โอ้ตเขิลลลล หันหน้าไปทางอื่น แล้วก็ตอบมาเบาๆ

โด่เอ้ย ไม่มีบุญได้กินหรอก
ครึก ครื่นนนนนนนนนนนนน …… เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มมาแต่ไกล พร้อมกับหยาดฝนแรกที่ตกลงมาต้อนรับกับวสันตฤดู

เวลาประมาณเกือบหกโมงเช้า ผมยังนอนอุดอู้อยู่ในผ้าห่มอันแสนสบาย

ไม่อยากลุกออกไปไหนเลยง่ะ ผมค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับเสียงฝนตกที่ดังเซ็งแซ่อยู่ภายนอก

หน้าฝนแล้วดิเนี่ย ฤดูของคนอกหักรักคุด

ปั้งๆๆๆ

ปริ้น ตื่นยัง เสียงโอ้ตที่รักมาปลุกแล้ว

ตื่นแล้วววววววเอ้ย เซ็ง อยากนอนต่อเจงๆ

วันนี้ยายให้โอ้ตขับรถไปโรงเรียนได้คับ เพราะเนื่องจากฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด ออกไปรอรถมีหวังเปียกแน่ๆ หุหุ ดีจัง ไม่ต้องยืนเบียดเป็นปลากระป๋อง

เอารถไปจอดในโรงเรียนไม่ได้ไม่ใช่เรอะผมถามพลางกัดบิ๊กเปาไส้หมูแดงอย่างอร่อยเหาะ

ไม่ได้อะดิ ต้องจอดเลยไปอีกหน่อยว่าแล้วโอ้ตมันก็หักรถเลี้ยวเข้าไปในโรงพยายาบาลที่ปกติเราต้องมานั่งคอยขึ้นรถกัน

นี่ เดี๋ยวแวะกินไรก่อนนะโอ้ตมันว่า สงสัยจาหิวอะเด๊ะ หุหุ กรูก็กินม่ะแบ่งเลยคับ เหอๆ

กินด้วยๆ

จะกินอีกอะไรอีกวะ เมื่อกี้ก็พึ่งยัดเข้าไปนิมันว่าด้วยเสียงเหน่อๆของมันคับ เด๋วนี้มีว้ง มีวะ -*-

แล้วก็เข้าไปหาไรกินในโรงบาลคับ จะว่าหลายคนอาจจะรู้สึกแปลกๆนะคับ แต่โรงบาลแห่งนี้ล่ะ ที่เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งพักพิง(ท้อง) แล้วก็แหล่งเก็บยานพาหนะ(รถยนต์ มอไซต์) ผัดมักกะโรนีที่นี่อร่อยมากมาย ขอโบก

ว่าแต่ว่า ตกลงมันเป็นโรงพยาบาลแน่เหรอป่าววะ !?

พอหาไรกินเสร็จ ก็เกือบจะ 8 โมงแล้วคับ ต้องรีบวิ่งกันอ่ะ แต่ฝนก็แมร่งไม่ยอมหยุดเลย แถมยังตกหนักกว่าตอนมาอีก

โอ้ตกลับไปเอาร่มที่รถมาดีกว่า ไม่งั้นเปียกแน่

โห เราว่า ร่มแมร่งก็ไม่อยู่หว่ะ วิ่งฝ่าไปเหอะ แป็บเดียวก็ถึง จาเข้าแถวแล้วด้วยผมชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือราโด้สุดเกร๋(ของปลอม) = =’’

เอาจริงอ่ะ

เออดิ ไป …” ว่าแล้วก็วิ่งตากฝนกันข้ามถนน รถแมร่งเบรกกันตัวโก่ง แต่ก็ปลอดภัยมาได้ เพราะข้ามทางม้าลาย (เกี่ยวม่ะ) แต่ที่ผมคาดว่า วิ่งนิดเดียวก็ถึง มันไม่ใช่คับ ไอ้ระยะที่ว่าเนี่ย มันก็ไกลพาสมควร แค่วิ่งข้ามถนน ตัวก็เปียกม่ะล่อกม่ะแล่กจะแย่อยู่แล้ว แต่ผมก็เห็นว่ามีบางคนมันโชว์เหนือวิ่งปู๊ดเดียวเข้าไปที่อาคารเลย

แล้วนี่ปริ้นเรียนตึกไหน ? ” โอ้ตมันถาม น้ำไหลเป็นสาย แต่ ดูมานเซ็กซี่มากคับ เสื้อนร ที่มันรัดอยู่แล้ว พอเปียกน้ำก็ เห็นอะไรไปถึงไหนต่อไหน ระหว่างที่กะลังเมามันกะการแทะโลมสายตาพี่ชายตัวเองอยู่ ไอ้โอ้ตก็ทักขึ้นมา

ปริ้น !!

เออ เออ ตึกไหนแล้วผมก็ทำมึนควักตารางสอนขึ้นมาดู

ตึก 1 แว๊ก มันเป็นตึกที่อยู่ในสุดเลย คือต้องวิ่งฝ่าฝนไปอีก

งั้นก็เลาะๆไปแล้วกัน โอ้ตเรียนตึก นี้พอดีมันว่า ตอนเย็นเจอกันที่หน้าปกครองนะ แล้วมันก็วิ่งไปเลย

วันนี้วันที่ 3 แล้วคับ ที่ผมเข้าห้องเรียนสาย เพราะว่า กว่าจะวิ่งไปตึก 1 กว่าจะหาห้องเจอ ห้องที่ย้ายมาเป็นห้อง 10 คับ คือต้องมาเริ่มปรับตัวกับเพื่อนใหม่อีกแล้ว ทั้งๆที่ 2 วันที่ผ่านมาก็เกือบจะอยู่ตัวแระ แล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไร เมื่อผมเดินเข้าไปในห้อง(ด้วยสภาพตัวเปียกโชก) ไอ้คนในห้องก็หันมามองเป็นตาเดียว

แล้วก็มีเสียงโห่ ฮา อะไรกันเล็กน้อยพอเป็นกระสัยคับ ประมาณว่าเป็นเด็กใหม่ไง จริงๆก็ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนน่าตาดีอะไรนะคับ ออกจาจืดชืดด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า ไอ้พวกผู้ชายในห้องมันจะออกแนวเถื่อนๆกว่าผมหน่อย ผมก็เลยได้ความขาวเข้าสู้

เท่าๆที่กวาดสายตาดู ห้องนี้มีผู้ชายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์คับ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ก็ผู้หญิง อืม ดีซะอีก ผมค่อยรู้สึกไม่แปลกแยกเท่าไร เพราะเคยเรียนแต่ชายล้วนนี่หว่า ผมยังไม่ทันหายงงดี ก็ยังยื่นเงอะงะอยู่หน้าห้อง อาจารย์ก็เข้ามาพอดี

เธอมายืนอะไรหน้าห้องอาจารย์เค้าไม่รู้คับ ว่าเด็กใหม่

เออ คือ .. ผมตอบไม่ถูกซิกรู

เด็กเทบ เด็กเทบ มานั่งนี่

ใครวะ ดูคุ้นตามากมาย ……………….. เฮ้ย ไอ้คิว ว่าแต่ เด็กเทบเชี่ยรายเมิง

ผมก็จำยอมเดินไปนั่งคับ แต่ไม่ได้นั่งติดกับมันหรอกนะ คือมันชี้ที่ว่างตรงหน้ามันล่ะ

เรียนห้องนี้ด้วยเหรอผมก็ยื่นหน้าไปถามคับ

ป่าว กรูเสนอหน้ามานั่งเองเออ ก็จริงของมัน แว๊กกก เย็สเข้ แมร่งกวนตรีนกรู

ผมหน้าเจือนนิดหน่อย แล้วก็หันมาทักทายคนที่นั่งข้างๆแทน

หวัดดี นั่งด้วยนะ

ตามสบายมันก็ยิ้มให้คับ ใส่เหล็กดัดฟันด้วย แต่หน้าตาก็งั้นๆล่ะคับ หุหุ

นายชื่อไรอ่ะ เราปริ้น

ซังคับว้าว พูดคับ ด้วยอะ สุภาพโคตรๆ (ว่าแต่ไอ้โอ้ตก็พูดกับผมนี่หว่า ทำไมไม่รู้สึกวะ 55)

น้อยๆ หน่อยอิ๊กคิวซัง ตีสนิทเด็กเทบเลยนะเมิง

อิ๊กคิว พ่อเมิงเหอะ ไอ้สัดมันหันหน้าไปด่าไอ้คิว อาจารย์ก็เลยเดินมาเบิร์ดกระโหลกมันสองตัวเลย แต่ผมอ่ะ กลั้นหัวเราะตัวงอเลย กับคำว่า อิ๊กคิวซัง คือ ซังมันตัดผมคล้ายๆสกินเฮดอะคับ 55 เอาเป็นว่า ขำแต่พองามเพราะว่า ไม่อยากเสียมิตรภาพที่ดี

ตกลงว่า ผมย้ายมาห้องใหม่แล้ว ถึงแม้ว่าจาดูเถื่อนๆ ไม่ค่อยตั้งใจเรียน แต่ก็ดูสบายๆดี ไม่ต้องแข่งขันอะไรมากมาย แต่ไอ้คิวเนี่ย อย่างที่โอ้ตมันบอกจริงๆ คือ เรียนคาบเว้นคาบ แถมคาบที่เรียน ก็เอาแต่เล่น ไม่ค่อยสนใจ ท่ำสำคัญ มันก็จาชวนผมไปดูดบุหรี่อีก

วันนี้เอาอีกตัวป่ะวะมันก็ทำหน้ากวนๆถามตามสไตร์

โดนม่ะวานยังไม่เข็ดเหรอ

ตูดกรูด้านแล้วเมิง แค่นี้จิ๊บๆ - - เฮ้ย คิวซัง เอาการบ้านมาลอกหน่อยไม่พูดปล่าว มันก็ไปคว้าแบบฝึกหัดอังกฤษที่ซังมันพึ่งทำเสร็จไปมาเก็บใส่กระเป๋ามันเลย

เหี้ยยยย กรูพึ่งทำเสร็จ จะไปส่งแล้วไอ้ซังมันบ่นคับ คืองานเค้าให้ส่งในคาบจริงๆแล้ว ไอ้ซังมันก็รีบปั่นเพื่อจะรีบไปส่ง แต่แมร่งไอ้คิวดันแย่งไปหมักไว้ก่อน ส่วนผมเสร็จเรียบโร้ย ปลอดภัย

เออ เด๋วกรูไปส่งให้ - - อาไร อาไร ทำหน้าๆ

ไอ้คิว มึงก็แบบนี้ทุกที บอกว่าจะส่ง มึงก็ไม่ส่ง เอาไปดองไว้อ่าแสดงว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก

แค่นี้ทำบ่น แหมทีขอกรูจับK กรูยางให้มึงจับได้เลย สัดไอ้คิวมันพูดขึ้นมาลอยๆคับ คงลืมไปว่ามีผมนั่งหน้าแป้นแล้นอยู่ข้างๆไอ้ซัง

ได้ยินแค่นั้น ก็เอ๋อแดกเลยผม หันหน้าหาไปซังประมาณว่า เมิงขอมันจับKเจงเหรอ ?

เหี้ย คิว พูดไรวะแล้วมันก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงขำของไอ้คิวไล่ตามหลังไป

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง

อ่า เสียงสวรรค์เสียงสุดท้าย เป็นอันว่าวันนี้ก็เลิกเรียนแล้วคับ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าจาสนิทกะอิกคิว .. เอ้ย ซังมากที่สุดในห้องแล้วคับ ไอ้คิวไม่นับเพราะไม่ได้อยากสนิท แต่ก็แปลกใจนิดหน่อยว่า ซังมันก็เข้าคุยกะทุกกลุ่มได้ แบบว่าเป็นคน friendly มากๆ แต่ทำไมมันถึงมาอยู่กลุ่มเดียวกะไอ้คิวได้ กลุ่มคิวจะมีอีก 2-3 คนที่แบบว่า เถื่อนพอๆกะมันเลย

แล้วนี่บ้านอยู่ไหนอ่ะ

อ่อ อยู่ชะอำ

โห โคตรไกลเลย แล้วมารถประจำเหรอ

ป่าว ก็ปกติมานั่งรถ ป2 มา แต่วันนี้ฝนตก ก็เลยมากับรถยนต์กะพี่อ่ะ

พี่นายใครวะ

พี่โอ้ตที่เป็นประธานนักเรียนอ่ะ แบบว่า คือ เป็นญาติๆกัน

ระหว่างนั่งรอโอ้ต ซังมันก็มานั่งเป็นเพื่อน แล้วก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย คุยเรื่องคนโน้นที คุยเรื่องคนนี้ที แต่ซังมันจะบ่นเรื่องไอ้คิวให้ฟังมากที่สุดคับ มันเหมือนเป็นลูกไล่ไอ้คิวเลย

อ้าว มาคอยนานยัง

นานอย่างมากอ่ะ ทำไรอยู่ผมได้ทีรีบแขวะไปตามเรื่อง

หวัดดีคับพี่โอ้ต

เออ ดีซัง เป็นไง

ก็เหมือนเดิมหล่ะพี่

เออ กีฬาสีปีนี้ ห้องซังอยู่สีเดียวกับพี่นี่นา ว่าจะเรียกมาคุยเหมือนกัน

อีกตั้ง 3 เดือนเนี่ยนะพี่ เร็วไปป่าว

เออ แล้วห้องเราอยู่สีอา - - -ผมพยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมคับ แต่ก็โดนเบรก

โห ดูอย่างปีที่แล้วซิ มันเตรียมตัวกันตั้งแต่ปิดเทอม ยังเกือบล่ม

พี่โอ้ตก็ต้องจัดการดีๆแล้วอ่ะ จะได้ไม่ต้องโดนพวกรุ่นน้องประณาม

เออ - -ผมไม่รู้จะพูดไรคับ ก็ยืนฟัง ในใจก็คิดประมาณว่า กรูกลายเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารักไปแระ

งั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ

ครับ งั้นไปก่อนนะปริ้นซังมันยิ้มให้ผมก่อนจะแยกไปทางใครทางมัน

อืมม่ายสบอารมณ์คับผม ม่ายสบอารมณ์อย่างมาก

เป็นไรไป เงียบเชียวโอ้ตมันคงพึ่งสังเกตได้มั้งคับ ว่าตั้งแต่เดินออกจาก รร แล้วก็ขึ้นรถ ผมไม่พูดซักคำเดียว

“- - -”

เป็นไร

ป่าวแข็งคับ แข็ง ปากแข็ง

เช้ยยยยยย ….. ”

อ้าว เป็นไงล่ะ ตากฝน เป็นหวัดแล้วโอ้ตว่าพลางเลื่อนมือไปเบาแอร์

ก็ตากเหมือนกันน่ะล่ะ

เอ้า มาเทียบกันได้ไง โอ้ตแข็งแรงกว่าปริ้นตั้งเยอะ

เออ ใครจะไปถึกสู้คุณโอ้ตได้ล่ะคร๊าบบบบแล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่าง ทำมองดูวิว แต่ในใจ ทำไมมันรู้สึกหงุดหงิดๆวะ เวลาเห็นโอ้ตมันหัวร่อ ต่อกระซิกกับอ้ายซัง คุยกานไม่สนใจกรูเล้ย

โอ้ตมันก็ไม่ว่าอะไรต่อคับ เห็นว่าผมเริ่มแบบใช้อารมณ์แล้ว

นี่ …. ”

หื้อ

รู้จักกับซังมันนานแล้วเหรอ

ก็ ตั้งแต่มันเข้ามา ม.1 แล้ว มีไรเหรอ ? ”

ป่าว ก็เห็นเหมือนจะสนิทกัน

เออ ก็สนิทหล่ะ ก็เจอกันมาตั้ง 3 ปี มีไรป่าว ? ”

ม่ะมีรายย ….. นอนก่อนล่ะกาน ปวดหัวๆผมก็ว่าไปงั้นล่ะ แต่จริงๆคือเกียจคุย แต่มันดันหลับไปจริงๆนี่ดิ มารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถึงแล้วคับ แต่ตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองมีไข้แล้วง่ะ

โอ้ต แวะซื้อยาก่อนเข้าบ้านได้ป่ะ เหมือนมีไข้หว่ะ

จริงอ่ะ

อ้าว แล้วกรูจาตอแหลเพื่อ ?

แล้วมันก็จอดรถตรงข้ามกับตลาด แล้วก็เอามือมาอังที่หน้าผาก

ไหน ไข้สูงป่าวไม่ทันคาดคิด มันก็ก้มเอาหน้าผากมันมาแตะกับหน้าผากผมคับ โอ่ว ความร้อนพุ่งปี้ดๆๆๆๆ

งั้นรอแป็บนะ โอ้ตข้ามไปซื้อยาก่อน

ระหว่างรอ ภาพที่ผมที่มันเอาหน้าผากมาแตะ ทำเอาจิ้นไปได้ต่างๆนาๆเลยทีเดียว

ปริ้นคับ กินยานะ เด๋วโอ้ตป้อนให้ อ้าว อ้าปากดิคับ คนดี อ่า อย่างงั้นแหละ

ถ้าคืนนี้ไข้ไม่ลด โอ้ตต้องจับปริ้นฉีดยาแล้วนะ ห้ามขัดขืนด้วย

อ่า อยู่นิ่งๆดิคับปริ้น ไม่เจ็บหรอกน้า หันก้นมาดิคับ - - - เจ็บนิดนึงนะคับ แล้วเด๋วก็จะสบาย

อึกกก อ๊า ~*”

ปริ้น - - ปริ้น

เห้อะ เหออ เจ็บๆ เบาๆ

อะไรเบาวะ ตื่นมาเร็วกินยาโอ้ตมันดูหัวเสีย ที่ผมพูดอะไรแปลกๆ

เออ อ่า ขะ ขอบใจ

นี่ผมฝันไปอีกแล้วเหรอเนี่ย โหยยย ฝันว่า มีอะไรกะไอ้โอ้ตด้วย !? เวนกำ

อือง่วงอ่ะ ถึงบ้านแล้วปลุกด้วยนะแล้วผมก็พลิกตัวหันไปซุกทางหน้าต่างคับ แอร์มานก็ไม่เบาให้วุ้ย -*-

อืม ปลุกแน่

ขอบจาย

ก่อนที่ผมจะเคลิ้มๆไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอุ่นๆ มาแตะที่แก้มด้านขวาเบาๆ แต่ตอนนั้นไม่อยากคิดอะไรแล้วคับ กรูง่วงและปวดหัวมากมาย



ติดตามชมตอนต่อไป
ปล. ยังไม่ได้จัดเรียง เนื่องจากด่วนแต่งนิยายหลายเรื่อง

ตอนที่3 มาแล้ว

พอโอ้ตมันจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พาผมเดินออกมาหาอะไรกินหน้าโรงเรียน มันเป็นคล้ายๆกับตลาดนัดอ่ะ ของขายเยอะดี โดยเฉพาะของกิน หุหุ ระหว่างเดินไปเดินมา โอ้ตมันก็ทักคนนั้นที คนโน้นที ทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง รู้จักคนเยอะมากๆอ่ะ แต่เวลามันจะแนะนำผมทีไร มันก็ทำท่าอ้ำอึ้งๆ

โถ ก็บอกว่าให้แนะนำว่ากรูเป็นน้องก็หมดเรื่องแระ คิดไรมาก เดินไปเดินมา ก็มานั่งรอรถกลับกันที่ป้ายรถหน้าโรงพยาบาลครับ

แล้วโอ้ตรู้จักมันเหรอ ไอ้คิวเนี่ย

ไม่มีใครไม่รู้จักมันหรอก ไอ้นี่น่ะครูเค้าจะเชิญให้ออกกันทั้งโรงเรียนแล้ว

เลวขนาดนั้นเลยเหรอผมถามทำหน้าเลิกลั่ก

โอ้ตมองหน้าผมประมาณว่า อยากรู้ไปทำไม แต่ก็บอกคร่าวๆว่า ไอ้คิวเนี่ย ตอนม ต้นมันเป็นเด็กดีมากๆนะ จากนั้นพอมันขึ้นม ปลาย ก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน เพราะมันไปคบเพื่อนเหี้ยๆ แล้วเพื่อนมันแต่ละคนก็หวังจะจับมันเพราะว่าบ้านมันรวย พอมันขึ้นม 5 บ้านมันก็มีปัญหาเพราะว่าพ่อตาย แม่มันก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ มันก็ยิ่งเสียศูนย์ไปใหญ่เลย

ไอ้นี่นะ เป็นพวกที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง เป็นพวกดันทุรัง แล้วก็มาระบายออกในสิ่งที่เลวๆไงโอ้ตว่า

อ่าหะ ….. ว่าแต่หายโกรธแล้วดิ

โอ้ตมันดูเหมือนไมได้ทันตั้งตัวกับคำถามนี้ เลยทำหันหน้าไปทางอื่นซะงั้น แฮ่ๆ หายโกรธแล้วละซิ ผมก็แกล้งเอานิ้วไปจิ้มเอวมันคับ

เฮ้ย ทำไร มันเอามือมาปัดคับ แต่หน้ามันยิ้มแระ

บ้าจี้เด๊ะผมได้ทีครับ เลยจิ้มอีก 555 (เลวม่ะ)

เฮ้ย ไม่เล่น เอ้ยยย เดี๋ยว เอ้ยยมันร้องใหญ่เลยคับ ตลกดี หยุดได้แล้วววววว

แล้วโอ้ตก็เอามือมาจับผมไว้ทั้งสองมือเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ มือไอ้โอ้ตอุ่นมากๆอ่ะ

ทำไมคุณปริ้นมือนิ่มจังอ่ะซะงั้น หลอกจับมือกู

ก็บอกแล้วไง ม่ะต้องเรียกว่าคุณผมบอกพลางรีบทำทีสะบัดมือด้วยความเหนียมอาย เอาปากกัดนิ้วชี้ทำท่าเขิล หุหุ แค่สะบัดมือเฉยๆเฟร้ย !!

นิ่มแล้วผิดตรงไหนฟะ ไหนๆ ของตัวเองอ่ะว่าแล้วผมก็ไปจับมือมัน แต่ แฮ่ม ผมเผลอพูดคำว่า ตัวเอง กับไอ้โอ้ตไปแบบลืมตัว แต่มันก็ดูไม่ได้ติดใจอะไร เออ เกือบไปแระ

ผมก็เอามือลูบไปลูบมา เพลินดีครับ มือสากๆกว่าผมนิดหน่อย มันดูท่าทางจั๊กจี้ครับ โชคดีนะที่ที่เรานั่งพลอดรัก เอ้ย คุยกันมันเป็นช่วงที่มืดนิดหน่อย เลยไม่เป็นที่สังเกต แล้วมันก็เย็นพอควรแล้วล่ะ แล้วผมก็ไปเห็นรอยแดงเป็นจุดๆที่มือโอ้ต

เจ็บมากป่าวจริงๆอยากบอกว่า ขอโทษ

โอ้ตมันก็ส่ายหน้า ไม่เจ็บ แค่นี้เอง

โห มันทำแมน

ตอนนั้นรถที่พาเรากลับบ้านได้มันผ่านไป 3 คันแล้วครับ แต่ผมก็แบบว่าอ้างไปเรื่อยล่ะว่า ไม่อยากนั่งรถคนเยอะ ไม่อยากเบียดอะไรเทือกนี้ โอ้ตมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็นั่งคอยกันไป โอ้ตตอนอยู่โรงเรียน ดีกว่าตอนอยู่ที่บ้านมากอะฮะ เพราะว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อยากให้มันเป็นพี่ผมจริงๆเลย ให้ตายดิโรบิ้น ผมไม่มีพี่ชายไง

จนเกือบ สองทุ่มแล้วครับ ปริ้นมันก็เลยบอกว่าถ้าไม่ขึ้นรอบนี้ก็ไม่มีแล้วนะ ผมก็เลยต้องเออออ ขึ้นไป คนก็ยังพอมีนิดหน่อย พอมีที่นั่ง พอรถออกจากตัวเมืองได้พักนึง รถก็ปิดไฟมืดทั้งรถเลย

ง่วงอ่ะ นอนนะผมว่า พลางปรับเบาะให้มันเอนลง

เอากระเป๋ามานี่ก็ได้ จะได้นอนสะดวกโอ้ตมันพูดแล้วดึงกระเป๋าที่ตักไปโดยไม่รอคำตอบ

ขอบใจ

อะไรนะ ? ”

ป่าวแล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่างครับ ชิส์ ทำหูทวนลมนะคุณโอ้ตตต

นั่งไปนั่งมา ผมก็ไม่หลับอ่ะ ไม่รู้เป็นไร ก็พลิกกลับตัวมา แล้วก็เหลือบไปทางโอ้ตคับ เห็นมันก็นั่งสัปหงกอยู่

หงึก

หงึก

หงึก

มันลืมตาคับ ผมก็แกล้งฟอร์มหลับตา ตอนนั้นคิดไรม่ะรู้ครับ อยากแกล้งด้วยมั้ง ช่วงที่รถมันสะเทือนๆ หัวผมก็เลื่อนไปทีละนิด ทีละนิด จนรู้สึกว่าไปพิงอยู่กับต้นแขนโอ้ตมัน อ่า นิ่มๆ แข็งๆ ตบท้ายความเนียนอย่างสมบูรณ์ เมื่อช่วงที่รถมันเลี้ยวโค้ง ตัวเราสองคนก็เรียกว่าเกือบแนบชิดกันเลยอ่ะ หุหุ น้องเนียนมากกู

โอ้ตมันก็หันมาทางผมครับ รู้สึกได้ตอนที่ลมหายใจมันมากระทบกับหัว และผมก็ได้ยินเสียง ….

- ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก

เสียงหัวใจโอ้ตฮะ แต่มันก็เต้นแบบปกตินะ ไม่ได้แบบสูบฉีดอะไรมากมาย แอบผิดหวังเล็กๆ 555 นี่กูคิดไรกะพี่กูวะเนี่ยยย ม่ะเข้าใจจิตใจตัวเองเลย แต่ตอนนี้


ผมรู้สึกอบอุ่นมาก จนอยากให้รถมันวิ่งลงไปถึงนราธิวาสเลย ^^

ปริ้น …”

หือ

ใกล้แล้ว

หือ อีกนิดน่า

ปริ้น มันแฉะ

หือ ลามกวะผมยังงัวเงียตอนที่โอ้ตปลุก แล้วก็ได้ยินมันว่าผมอะไรแฉะๆนี่ล่ะ แมร่ง ม่ะได้ทำไรกันนะจะน้ำแตกได้ไง (เหอๆ คิดไปโน่น)

อะไรลามก ? ” แล้วมันก็หันเสื้อที่เปียกน้ำลายให้ดู

เอ๊ะ น้ำอารายอ่ะผมแกล้งทำเสียงปัญญาอ่อน แล้วก็ยิ้มแฮะๆ โอ้ตมันก็พึมพำว่า คนไรวะ นอนน้ำลายไหลได้ทุกวัน

กลับมาถึงบ้าน ผมก็เห็นเค้าลางไม่ดีแล้วอ่ะ เมื่อเห็นป้าเล็กมายืนรออยู่หน้าบ้านป้าเล็กหรือแม่โอ้ตนั่นล่ะ ผมหันไปมองหน้าพี่โอ้ต ก็เสียเหมือนกัน

ไอ้โอ้ต ทำไมพาน้องกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้ รู้มั้ยเค้าเป็นห่วงกันขนาดไหนแม่โอ้ตมันตวาดลั่นบ้านเลย


ขอโทษครับโอ้ตยกมือไหว้แม่ตัวเอง

แล้วแบบนี้จะให้แม่ไว้ใจ ไปไหนมาไหนกับน้องได้ไง !! ดูซิ แค่วันแรกก็พากันไปตะลอนกลับเอาป่านนี้ ข้าวปลาจะได้กินกันเมื่อไร เกิดใคร บลาๆๆๆ อีกยาวโดยมี ผมยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างพี่โอ้ต

เออ ป้า - - -ผมกะลังจะพูดบ้าง

คุณปริ้นก็เหมือนกัน ทำแบบนี้คุณยายเป็นห่วงรู้มั้ยคะ อ้าว กูโดนบ้างแระ ป้าจัดกับข้าวไว้บนเรือนแล้ว คุณปริ้นรีบไปกินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นหมด

โอ้ต เข้าบ้าน ต้องฟาดกันบ้างแล้วป้าเล็กพูด โอ้ตก็หันมาทางผมแป็บนึง แล้วก็เดินเข้าไปที่บ้านเค้าเลย บริเวณบ้านยายมี 4 หลังครับ มีบ้านใหญ่ บ้านที่ผมอยู่ แล้วก็บ้านของคนที่บ้านอีก 2 หลัง โห ทำไมต้องฟาดกันด้วยอ่ะ โตขนาดนี้แล้ว ผมมองหน้าป้าเล็ก คิดในใจ

ผมก็ขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ยายผมก็นั่งดูทีวีอยู่

ยาย กลับมาแล้ว - - คับ

กลับมาแล้วก็รีบกินข้าวกินปลาซะ เย็นหมดแล้วยายผมบอก ไม่มีท่าทีโกรธเหมือนป้าเล็กเลยแฮะ แล้วเจ้าโอ้ตไปไหน

ป้าเล็กเรียกไปที่บ้านอ่ะยาย ท่าทางโกรธมากด้วย

เล็กเค้าก็เป็นแบบนี้ล่ะ เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง

เค้าจะตีพี่โอ้ตผมรีบฟ้องยายทันที หวังว่ายายคงจะช่วยได้

แล้วทำไมปริ้นถึงกลับมาช้าล่ะลูกยายผมถามอย่างใจเย็น ตาก็ดูทีวีไป

คือ คือ คือปริ้นต้องทำเรื่องย้ายห้องอ่ะครับ ครูเค้าให้ปริ้นเรียนห้องสายวิทย์อ่ะผมนึกคำตอแหลได้แบบสดๆร้อนๆ

เลยต้องอยู่เย็น ? ” ยายผมส่งสายตามา

เฮือก

ครับผมตอบแบบเสียไม่ได้

แล้วก็เหมือนสวรรค์ช่วยคับ ยายลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ได้ยินเหมือนคุยกับป้าเล็ก คือ โทรศัพท์ที่บ้านมันจะแบบพ่วงต่อกันหมดเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เหนื่อย ผมก็ลุ้นๆอยู่ แล้วยายก็วางโทรศัพท์แล้วก็เดินมาปิดทีวี

แม่เค้าฟาดลูกไป 3 ทีแล้ว นี่ก็จะไม่ให้มากินข้าวด้วย แต่ยายบอกว่า ให้มากินเถอะยายบอกผม

ปริ้น เดี๋ยวยายเข้านอนก่อนนะ พอเจ้าโอ้ตมากินข้าวแล้วก็ให้ปิดประตูด้วย

ครับ

“- - เออ แล้วเมื่อกี้แม่เจ้าโอ้ตเค้าบอก เจ้าโอ้ตสารภาพว่า มัวแต่ซ้อมบอลจนลืมเวลา ก็เลยกลับดึก ทีหน้าทีหลัง จะซ้อมฟุตบอล หรือ ทำเรื่องย้ายห้อง ก็ทำให้มันเร็วๆหน่อยนะลูกปริ้น

ว่าแล้วยายก็เดินไปในห้องด้วยสีหน้าเหมือนจับผิดหลานได้แบบนั้นล่ะ

ลงจากเรือนปั๊บ ผมก็วิ่งแจ้นไปทางบ้านโอ้ตเลย ป่านนี้จะเป็นไรมากป่าวน้า มันเจ็บเพราะผมอีกแล้ว อยากจะขอโทษเป็นพันครั้ง เดินไปจนถึงหน้าประตูบ้าน แต่ก็ไม่กล้าจะเคาะอ่ะ ก็เดินวนๆ รอ แต่ก็ไม่ยักออกมาซะที พอดีกับเห็นเงาคนลางๆ นั่งอยู่ที่ม้านั่ง

โอ้ต…” ผมทัก เจ้าของเงาสะดุ้งตัว แล้วก็เอามือปาดที่ใบหน้า ถึงมันมืดไม่เห็นอะไร ก็พอรู้ว่าโอ้ตมันร้องไห้

ว่าไงน้ำเสียงมันแกล้งทำเป็นปกติ

ป่ะ ไปกินข้าวกัน

ไม่ล่ะ ผมไม่หิว

เฮ้ย ไม่หิวได้ไง ก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน ป่ะว่าแล้วผมก็เดินไปจูงมือมันออกจากเงามืด แอบเหลือบมอง ก็เห็นเป็นคราบน้ำตาจริงๆครับ

ไม่หิว จริงๆนะโอ้ตตอบผมเบาๆ

ผมอยากจะเอาอะไรที่ผมมีอยู่แลก เพียงเพราะแค่ให้อ้าปาก แล้วบอกคำว่าขอโทษกับโอ้ต แต่ทำไมมันถึงพูดไม่ออกวะ ไอ้เชี่ย

แต่เราหิวหว่ะโอ้ตผมพูดแกมบังคับ

โอ้ตมันก็มองหน้าผมครับ

ขอโทษครับ แต่ว่า ….. เลิกบังคับผมซะทีเหอะสีหน้าโอ้ตพูดแบบจริงจังมาก จนผมกลัว

“- - -”

เฮ้ยๆ มึง หยุดเลย กูบอกให้หยุด หยุด หยุด หยุด อย่านะว้อยยยยย

ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งแบบนั้น แต่ก็มีของเหลวใสๆ หยดลงมาจนได้ ทำไมผมถึงเสียใจกับคำพูดของโอ้ตขนาดนี้วะ

อืม …. ขะ ขอโทษ - - - ขอโทษที่เราชอบสั่งนาย บังคับนาย ทำสิ่งที่นายไม่ชอบ

หยดที่สองไหลก็ไหลตามมา

ขอโทดที่ต้องให้เสียเวลาไปซื้อนั่นซื้อนี้ ขอโทษที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ฮึกตะ แต่ตอนนี้ เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนนายแล้ว

พูดเสร็จ ผมก็เอามือปาดน้ำตา แล้วก็จ้ำพลวดๆกลับเข้าบ้านเลย ข้าวปลาไม่กินแล้วคับ อารมณ์มันน้อยใจง่ะ แต่เราจะน้อยใจไปทำไมวะ เค้าไม่ใช่ญาติเรา ไม่ใช่พี่เรา ไม่ได้เป็นอะไรกับเราซะหน่อย เรามันก็เป็นแค่หลานของเจ้านายเค้าเท่านั้น แหม ทำไมยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลวะ กูอ่อนแอจังวะ แค่นี้เอง

ปั้งๆ เสียงเคาะประตู

ปั้งๆๆ

แอ๊ดด

ทำไมต้องร้องไห้ด้วย ?” โอ้ตมันเปิดประตูเข้า หน้าแมร่งโคตรโหดเลย .. จะตามมาฆ่ากูเหรอเนี่ยยย




ติดตามชมตอนต่อไป

ปล. ยังไม่ได้จัดเรียง ขออภัยมานะที่นี้นะ

ตอน 2 จ้า


                “หน้าไปโดนอะไรมาห่ะยายดันสังเกตเห็นรอยแดงในระหว่างการกินมื้อเช้า
                “ไม่รู้เหมือนกันคับ สงสัยตอนนอนหน้ามันไปกดกับหมอน มั้ง .. ผมตอบ แต่มันเจ็บด้วยนี่ซิ อธิบายด้วยเหตุผลไม่ถูก
                “เดี๋ยวนายสนเค้าจะให้เจ้าโอ้ตพาปริ้นไปดูโรงเรียนนะยายผมบอก โอ้ตนี่คงเป็นลูกลุงสนล่ะมั้ง ว่าแต่ทำไมพ่อชื่อสน ลูกชื่อโอ้ตวะ ช่างมันๆ ซักพักผมก็กลับมาที่บ้านเล็ก สายตาก็เหลือบไปมองประตูลงไปในห้องใต้ดิน

ว้า ผมกะว่าวันนี้ตั้งใจจะลงไปสำรวจดูซะหน่อย แต่ไม่เป็นไร เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้วะ ว่าแล้วผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า มีแต่ชุด นร เก่านี่หว่า แล้ว รร ใหม่ก็ใช้กางเกงสีน้ำตาลด้วย ฮ่วยๆๆ
ไม่ชอบเล้ยยย (ความคิดตอนนั้นนะ ฮะๆ อย่าพี่งด่าผม) ผมรอไปประมาณครึ่งชั่วโมง กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในห้อง พี่แกก็ไม่ยอมมาซะที ผมก็เลย …. หลับ เหอๆ
                “คุณปริ้น ….”
                “ฮ้ะ คร๊าบบบผมงัวเงียตอบไป
                “คุณปริ้น คือผมมารับคุณไปโรงเรียนครับ - - - เออ ผมว่าล้างหน้าก่อนไปดีกว่านะผมลืมตาขึ้นก็เห็นหนุ่มน้อยหน้าเข้มคนนึงยืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้อง
                “เออ ครับรู้สึกอายๆ ที่มีคนมาเห็นสภาพที่ดูอนาถตอนนอน แล้วก็รีบเอามือไปปาดน้ำลายที่ปาก

เวรแล้วไง นอนน้ำลายยืดด้วยกู หลังจากไปจัดตัวเองให้เข้าที่เข้าทางใหม่อีกรอบ คนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่โอ้ต ก็เดินนำผมไปที่รถ
                “พี่เป็นลูกลุงสนเหรอ ? ” ผมถามอะไรโง่ๆเพื่อความแน่ใจ เพราะผมนึกว่า ลูกลุงน่าจะดูแก่กว่านี้อ่ะ ดูคนๆนี้น่าจะอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ
                “ครับ
                “เออ พี่ไม่ต้องพูดว่า ครับ ก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องเรียกผมว่า คุณ หรอก มันแปลกๆอ่ะ
                “ไม่ได้หรอกครับ ก็คุณเป็นหลานเจ้านายของพ่อผมนี่ครับว่าแล้วพี่แกก็ส่งยิ้มแบบมีมารยาทให้ผม แล้วก็ออกรถ พี่โอ้ตจะค่อนข้างจะพูดเหน่อครับ เหน่อแบบเป็นเอกลักษณ์ของคนจังหวัดนี้อ่ะ ฟังแล้วแปลกๆดี
                “แล้วตอนนี้พี่เรียนอยู่ป่าวคับ
                “ผมก็เรียนอยู่ที่เดียวกับที่คุณปริ้นจะเรียนนี่ล่ะคับ แต่ผมเรียน ม.6 ”
                “อ้าว จริงดิ งั้นก็ห่างกันแค่ปีเดียวอะดิ งั้นเราเรียกนายว่าโอ้ตเฉยๆล่ะกัน ได้ป่ะน่าน ได้ทีผมปีนเกลียวคับ หุหุ
                “ก็แล้วแต่คุณครับ แต่ - - -
                “แล้วนายก็ต้องเรียกเราว่า ปริ้น เฉยๆด้วยผมรีบพูดขัด
                “คิดดูเด๊ะ อยู่โรงเรียนเดียวกัน แล้วนายมาเรียกเราว่า คุณปริ้น ไรงี้ เราอายตายชัก เราไม่ใช่คุณหนูนะเว้ย

พี่โอ้ตแสดงความรู้สึกลำบากใจออกมานิดหน่อย
                “แต่ว่า ถ้าคุณ - - -
                “ก็ถ้าอยู่ที่บ้าน นายจะเรียกยังไงก็แล้วแต่นาย แต่อยู่ที่โรงเรียน ก็เรียกตามนี้ล่ะกันผมพูดตัดบท
                “เครนะ
                “อะไรเครครับ ? ”
                “หมายถึง โอเค
                “อ่อ โอเค

โอ้ตเอานิ้วเกาแก้มตัวเองเบาๆ แสดงอาการเขิน เออ น่ารักดีแฮะ ……………….. ว่าแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าการกระทำม่ะกี้ของโอ้ตมันดูน่ารักว้า

ประมาณครึ่งชั่วโมงเอง โอ้ตก็พาผมขับรถมาจอดอยู่ด้านข้างโรงเรียน เพราะว่า เค้าไม่อนุญาตให้นักเรียนขับรถเข้าไปได้ฮะ แล้วโอ้ตก็พาเดินไปดูรอบๆโรงเรียน ว่าตึกไหน เป็นตึกไหนแบบคราวๆ ซึ่งปกติแล้ว ถ้าผมเข้ามาช่วง ม 1 หรือ ม 4 เนี่ย เค้าก็จะมีปฐมนิเทศแล้วพี่ๆ ก็จะพาแนะนำ แต่ผมดันมาเข้ากลางอากาศตอน ม 5 เลยต้องมาพึ่งโอ้ตนี่ล่ะ
                “โรงเรียนเก่าปริ้นเป็นโรงเรียนชายล้วนใช่ป่ะโอ้ตถามผมหลังจากเดินมาถึงที่ที่เรียกว่า ตึก 5
                “อือ มีแต่ผู้ชาย” (ก็ต้องงั้นอยู่แระ)
                “ที่นี่ก็เคยเป็นชายล้วน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสห หมดแล้ว

โห เสียดายแย่เลย เอ้ย ม่ายช่าย
แต่ที่นี่ยังพิเศษกว่าโรงเรียนอื่นอีกนิดหน่อย .. โอ้ตยิ้ม แล้วก็เดินนำไปด้านหลังอาคาร มันเป็นสวนป่าครับ แล้วก็มีน้ำตกที่สร้างขึ้น แล้วก็ …. ภูเขา
                “เฮ้ยยย มีภูเขาติดโรงเรียนด้วยอ่ะ ไฮโซโคดๆผมออกอาการดี๊ด๊า เพราะไม่เคยเห็น
                “ช่ายยยยโอ้ตมันพูดแบบภูมิใจ จะลองปีนขึ้นไปดูมั้ย
                “เค้าให้ปีนขึ้นไปได้ด้วยเหรอ ? ”
                “เวลาปกติก็ห้ามอยู่แล้ว แต่นี่มันปิดเทอมอยู่น่ะ แต่เวลาเปิดเรียน เด็กมันก็โดดออกทางนี้ประจำล่ะอ่าเป็นข้อดีของการมีเขาติดหลังโรงเรียน แล้วโอ้ตก็นำผมไปเจอขุมทรัพย์ของชีวิตนักเรียน (โดดเรียน) มันเป็นพื้นชันๆขึ้นไปบนเขา แต่ดูแล้วมีรอยถากถาง แล้วก็เหมือนถูกใช้มาหลายรุ่นแล้วล่ะ
                “รู้ทางกะเค้าด้วยแฮะ
                “55 ก็เคยขึ้นไปเหมือนกันนี่นา - - -โหย เห็นหน้าแบบนี้ โดดกะเค้าด้วยนี่หว่า
                “- - - แต่ว่าขึ้นไปจับไอ้พวกเด็กที่มันโดดนะ พอดีโอ้ตเป็นกรรมการนักเรียน

แป่ว หน้าแหก
                “แล้วงี้ ถ้าเราโดดบ้าง โอ้ตจะจับป่ะ ? ”

โอ้ตทำหน้าเจ้าเล่ห์ ซึ่งไม่ค่อยจะเคยเห็น จับดิผมแกล้งทำหน้างอใส่
                “ป่ะขึ้นไปดูข้างบนโอ้ตบอกพลางเดินนำขึ้นไปบนทางชัน
                “แน่ใจนะเราขึ้นไปแล้วมันจะไม่ร่วงลงมาผมถามเพราะว่าไม่เคยปีนเขามาก่อน
                “ถ้าร่วงเดี๋ยวโอ้ตรับเอง ไม่ต้องกลัวโอ้ตบอก แล้วก็ยื่นมือมาหาผม

หงึบ อึ้งไปแว่บนึง พร้อมกับความผะผ่าวที่ใบหน้า แต่ก็ยื่นมือไปจับมือโอ้ตไว้ พยุงตัว
                “ขะ ขอบใจผมยิ้มให้ แล้วก็โอ้ตก็ยิ้มตอบกลับมา

อะไรบางอย่างที่ซับซ้อนมากกว่าคำว่ามิตรภาพกำลังจะเริ่มขึ้น(เหรอป่าว ?)
                “อีกนิดเดียวปริ้นโอ้ตบอก พร้อมกับดึงมือผม ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่า อยากจะนอนมันอยู่แถวๆนั้น แทนที่จะปีนขึ้นไปด้านบนแล้ว (ถ้าเป็นตอนนี้ แค่ 10 นาทีคงถึง)
                “คุณพี่ค๊าบ ผมขอพักตรงนี้ก่อน
                “เดี๋ยวอีกนิดก็ถึงแล้วพลางฉุดมือผมขึ้นมาด้วยความยากเย็น

ซักพัก ด้วยความพยายามของผม (และโอ้ต) ก็ทะลุออกมาเป็นถนนที่ทำไว้ให้รถยนต์ขึ้นไปจอดบนเขาได้
                “ทางเรียบแล้ว เดี๋ยวเดินไปอีกนิดก็จะถึงแล้วโอ้ตว่า
                “เหนื่อยผมบอก
                “ว่าแล้ว .. เด็กกรุงเทพก็เงี้ย สู้เด็กตจว อย่างโอ้ตก็ไม่ได้
แล้วโอ้ตก็เดินขึ้นไปต่อ โดยไม่คอยผมครับ ใจร้ายมากกก

ผมพยายายามตะเกือกตะกายเดินต่อ จนออกมาเห็นเป็นลักษณะของพระราชวังที่ตั้งอยู่บนยอดเขาครับ โอ้ตพาผมซื้อน้ำที่มีขายอยู่ข้างบน แล้วก็พาขึ้นไปนั่งพักอยู่บนที่ๆเค้าใช้เป็นหอดูดาวสมัยก่อน อยู่บนนี้ ลมพัดเย็นมากจนหายเหนื่อยไปเลย โอ้ตชี้ให้ดูนั่นดูนี่อีกหลายอย่าง ดูท่าทางมีความสุขมาก ผมก็มีความสุขมากเช่นกัน แต่ไม่แบบอธิบายไม่ถูก แฮะๆ

เราพี่น้องเดินวนไปวนมาจนกระทั้งเกือบเย็น เพราะว่าอะไรๆก็ดูประทับใจผมไปซะทั้งหมดบนนี้ แล้วก็ดูเหมือนว่า ขาลงก็ง่ายดายกว่าขาขึ้นมาก ผมแค่ระวังไม่ให้ตัวดิ่งลงไปเร็วจนเกินไป จนทำให้หน้าทิ่มดินแล้วก็กลิ้งๆลงมา แค่นั้นเอง
                “หนุกมั้ยโอ้ตถาม ผมรู้สึกว่าโอ้ตเริ่มจะคุ้นเคยกับการไม่พูด คุณ กับ ครับ กับผมแล้ว
                “มากๆอ่ะ
                “แต่ตอนเรียน ห้ามโดดขึ้นไปเลยนะโอ้ตรีบปราม เพราะไม่งั้น - - -
                “คุณพี่โอ้ตก็จะจับผมไปขึ้นห้องปกครองใช่ป่าว


โอ้ตหันกลับมายิ้มกริ่ม ใบหน้าแสดงความพอใจ
                “อยากรู้ น้องปริ้นก็ลองดิครับ

หลังจากวันที่โอ้ตพาผมไปโรงเรียนวันนั้น เกือบทุกวัน โอ้ตมันก็จะมารับผมไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทะเลครับ หัวหินเอย สวนสนเอย สนุกสนานมาก ตอนเช้าตื่นมา ก็เตรียมตัวมีหนุ่มมารับออกไปเที่ยว กลับมาตอนเย็น ก็เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว .. เป็นอย่างนี้มาจนพรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอมแล้ว ผมก็มีอันนึกได้ว่ายังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเลย
                “โอ้ต เรายังไม่ได้ซื้อเสื้อเลยวะ
                “ทำไมพึ่งมาบอกตอนนี้เนี่ยโอ้ตมันทำเสียงประณาม
                “เอาน่า เป็นครายกันจะมาเทศนาเราผมหลุดปากออกไปโดยไม่ทันได้คิด โอ้ตดูซึมไปเลย
                “เออ เราขอโทษ คือ เราพูดเล่นผมเดินไปกอดคอโอ้ต ทำทีเป็นล้อเล่น แต่โอ้ตมันกลับจับมือผมออก
                “ไม่เป็นไรหรอกครับแล้วมันก็เดินไปที่รถ

อ้าวเว้ยเห้ย งอนซะงั้น กรูขอโทษแล้วงายย
                “ผมก็แค่ลูกคนใช้ในบ้าน คุณจะพูดยังไง ผมจะไปโกรธคุณได้ไง - - ขึ้นรถซิครับ จะพาไปซื้อ

โอ้ตมันพูดยืดยาว แถมขัดจังหวะตอนที่ผมทำท่าจะอธิบาย ตอนนั้นผมรู้สึกแย่มากๆครับ ที่พูดอะไรแล้วไม่ทันคิด เป็นโรคปากไวแต่กำเนิด ทำไงได้อ่ะ - -
                “เราขอโทษนะ หายโกรธยังผมหันไปถาม เพราะแน่ใจว่ามันยังโกรธอยู่แน่นอน แมร่ง เล่นไม่พูดไม่คุยตลอดระยะเวลาที่มากับผมเลย
                “ไม่ได้โกรธโอ้ตตอบแบบไม่หันมา “ - - - ครับ
                “ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องพูดครับ กับเรา แล้วดูทำหน้าดิ๊ อย่างกับตูด แล้วบอกว่าไม่ได้โกรธอ่า ผมชักเหลืออดครับ เพราะว่ารู้สึกชักจาเล่นตัวกะกรูแล้วนะมรึง
                “โอ้ตตต

ผมหันไปหาเสียงเรียก ก็พบว่า มีกลุ่มคนกำลังเดินเข้ามาทักทายโอ้ต คงเป็นเพื่อนเค้าล่ะ (แหงล่ะซิมึง) เป็น หญิง 1 ชาย 2
                “ว่าไงโอ้ตทักแบบไม่ค่อยสบอารมณ์
                “มาทำไรวะ
                “มาซักผ้ามั้งมึง

โหกวนตีน
                “เออ กูนึกว่ามึงมาชักว่าว ไอ้สาด

กวนตีนพอกัน
ผมยืนฟังเพื่อนๆเค้าทักทายกันซักพัก ก็มีคนหันมาสนใจผมซะที
                “ใครอะโอ้ตเสียงพี่ผู้หญิงถาม
                “อ่อ เป็น - - -โอ้ตเหมือนจะตอบไม่ออก
                “ปริ้นคับ เป็นลูกพี่ลูกน้องพี่โอ้ตอ่ะครับผมยิ้มตอบไป วิญญาณสะตอเข้าสิง จะมาเรียนโรงเรียนพี่โอ้ตครับ
                “จริงดิโอ้ต พี่ผู้หญิงหันไปถามโอ้ต เอ้า ก็กรูพึ่งบอกไปหยกๆเนี่ย ม่ะเชื่อกรูเหรอ
                “เออ
                “ฝน เห็นน้องเค้าน่ารักหน่อยนี่ ต่อมแรดออกเลยนะมึงเสียงพี่ผู้ชายคนนึงแซว ผมก็หันไปมอง แล้วจากนั้นผมก็รู้จักทั้ง 3 คนครับ พี่ท็อป พี่ฝน พี่กล้า พี่ท็อปจะออกแนวเถื่อนๆ ตัวใหญ่โคตร ผมว่าโอ้ตตัวใหญ่แล้ว พี่ท็อปยังใหญ่กว่า ประมาณใหญ่และตัน พี่ท็อป ตัวพอๆกะผมครับ ขาวกว่า เป็นอาตี๋เลย แต่ก็พูดเหน่อเหมือนกะโอ้ต ดูดีเวลาทำหน้าเฉยๆ แต่เวลาพูดแล้วจาปากหมา ส่วนโอ้ตของผม(ตั้งแต่ม่ะไร)จะผิวสีแทนๆ ไม่ดำ ไม่ขาว ตัวสูง แต่ไม่ล่ำเท่าพี่ท็อป ที่สำคัญ น่ารัก ^^

คุยกันได้ซักพักนึง ก็แยกย้ายครับ เพราะเย็นพอควรแล้ว พวกเพื่อนโอ้ตอยู่ในเมือง แต่เราสองคน อยู่นอกเมืองคับ ต้องเสียเวลาเดินทางกลับอีก

กลับมาถึง ยายก็เรียกผมไปให้โอวาท พร้อมกะเทศอีกนึงดอก เพราะรู้ว่าผมพึ่งมาจัดหาของเอาวันสุดท้าย พร้อมกับบอกให้รีบนอน เพราะต้องรีบตื่นด้วย
                “ทำไมนายต้องบอกยายด้วยอ่ะ แค่ไปซื้อเสื้อก่อนเปิดเรียนแค่นี้อีกผมพูดฉุนๆกะโอ้ต เพราะนึกว่ามันไปบอกยาย
                “ผมไม่ได้บอกซะหน่อยโอ้ตเหมือนจะอารมณ์เสียขึ้นมาบ้าง ยายคุณถามพ่อผมต่างหากว่าจะผมพาคุณไปไหนวันนี้

ว่าพลางกระแทกประตูใส่หน้าจ๋อยๆของผม หลังจากได้ไปกล่าวว่าโอ้ตไว้อย่างงั้น จะพูดขอโทษมันก็ไม่ทันซะแล้ว
                “คุณปริ้น ปริ้น ตื่นได้แล้ว

เสียงโอ้ตดังเข้ามาในจิตสำนึก พร้อมกับแรงเขย่าตัว
                “ขออีก 5 นาทีผมว่าพลางซุกตัวเข้ากับผ้าห่ม
                “ถ้างั้นผมจะบอกยายคุณให้มาปลุกเองมันพูดพร้อมทำท่าเดินออกจากห้องไปจริงๆ ท่าทางยังไม่หายโกรธจากมะวานแฮะ
                “เง้ยย ตื่นแล้วผมว่าพลาง ลุกขึ้นมาเกาหัว กี่โมง
                “จะหกโมงเช้าแล้ว
                “โห จะรีบตื่นทำมายยย ขับรถไปแป็บเดียวก็ถึง
                “ขับไปไม่ได้ ต้องนั่งรถไปครับ
                “โห .. ผมโอดครวญ ที่ยายพูดไว้ตั้งแต่ตอนมาก็จริงอะดิ นึกว่าไม่ต้องนั่งรถเมล์กรุงเทพแล้วนะเนี่ย ต้องมานั่งรถเมล์ต่างจังหวัดอีก กำของกรู

ผมก็รีบพุ่งเข้าไปอาบน้ำทันที เพราะว่า ต้องนั่งรถไปใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงโรงเรียน ยายทำไมชอบทำไรให้ยุ่งยากด้วยว้า ผมวิ่งผ่านน้ำออกมา ก็พบว่ามีเสื้อนักเรียนใหม่เอี่ยม แขวนไว้บนตู้เสื้อผ้า แต่โอ้ตไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว อ่ะ ผมเข้าไปสังเกตเห็นตรงหน้าอก มีชื่อโรงเรียน แล้วก็ชื่อผมปักไว้แบบหยาบๆ
                “โอ้ต

ผมคราง มันปักชื่อให้เราเหรอเนี่ย งั้นม่ะคืนก็ไม่ได้นอนเลยอะดิ ความรู้สึกผิดม่ะวานยังไม่หาย แต่เช้านี้มันยิ่งมากขึ้นมาอีกครับ ระหว่างรอรถป 2 ผมกะโอ้ตก็ไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ก็แอบสังเกตคับ ว่าโอ้ตมันหาวบ่อยมาก ผมจะพูด ก็ปากหนัก ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี จนได้ขึ้นรถ รถก็แบบว่า โคตรเต็มครับ ทั้งคนทำงาน ทั้งเด็กนักเรียน ทั้งเด็กเทคนิค เด็กอาชีวะ เด็กราชภัฏ โอ้ว จนผ่านไปเกือบ 30 นาที ก็มีที่นั่งว่างอยู่
                “ปริ้นไปนั่งซิ

ผมส่ายหน้า แล้วก็รีบดันตัวโอ้ตให้ไปนั่งแทน มันก็ทำหน้างงๆ
                “นายนั่งไปเถอะ ม่ะคืนไม่ได้นอนทั้งไม่ใช่เหรอ ? ” ผมพูดแบบจับผิดครับ ไม่รู้ว่าทำไปทำไมเหมือนกัน แต่โอ้ตก็แบบหลบตา ทำหน้าแดงๆ
                “อือ งั้นพอเห็น เด็กลงกันแล้วก็ปลุกด้วยนะว่าพลางชี้ไปที่ นร ที่เห็นว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน
                “ได้ผมยิ้มตอบ คงเป็นสิ่งผมตอบแทนได้ดีที่สุดในตอนนี้แล้วล่ะ ไม่ถึง 5 นาทีคับ มันหลับไปจริงๆเลยอ่ะ หัวก็โงกเงกไปเกือบจะชนคนที่นั่งข้างๆ ดูเค้าทำสีหน้ารำคาญชอบกล ผมก็เลยค่อยๆจับหัวโอ้ตไว้ มาซบที่พุงของตัวเอง ลมหายใจของโอ้ตสัมผัสกับนิ้วผมเบาๆ

อ๊างงงง ทำไมผมรู้สึกมีความสุขแบบนี้วะ ไม่เข้าใจเลย แต่ที่ทำให้ผมตกใจ ก็คือ ผมเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆที่มือของโอ้ตคับ เลยจับเบาๆ ปรากฏว่า เป็นรอยเข็มทิ่มคับ นาทีนั้น ผมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นรอบๆดวงตา ไม่น่าไปพูดดูถูก ไม่น่าจะเอาแต่ใจ ไม่น่าเถียงโอ้ตเลย ทั้งๆที่เค้าทำดีกับผมขนาดนี้
                “โอ้ต
ผมกระซิบเหมือนให้ตัวเองได้ยินคนเดียว
                “ขอบคุณนะคับ

ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองเหรอเปล่า แต่โอ้ตมันกระตุกตัวนิดนึง ก่อนที่จะนิ่งไปเหมือนเดิม ( ไม่ได้แน่นิ่งนะว้อย)

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง

เสียงสัญญาณดังไกลๆ ว่าผมกะโอ้ตต้องรีบวิ่งเข้าโรงเรียนแล้ว ระยะห่างระหว่างหน้าประตูโรงเรียนกะที่เข้าแถวมันไกลกันพอสมควร ประมาณเกือบ 2 สนามบอล
                “แล้วเราต้องไปเข้าแถวตรงไหนอ่ะผมดูว้าวุ่นใจเมื่อเห็นว่า นร แต่ละคนก็มีจุดหมายที่วิ่งไปทั้งนั้น แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหน
                “เออ …” เฮ้ย อย่าบอกนะว่ามึงก็ไม่รู้
                “เดี๋ยวพาไปฝากอาจารย์ไว้ก่อนล่ะกัน

อ้าวเวร

ซักพักหลังจากที่เคารพธงชาติเสร็จ สวดมนต์ แผ่ส่วนกุศล แล้วก็มีคนมาพูดๆ จนเด็กเหงื่อตกเสร็จ ก็ได้เวลาแยกย้ายไปเรียนคาบ 1 แต่ผมยังอยู่ที่ห้องวิชาการอยู่เลย มีปัญหานิดหน่อย
                “ตอนผมสมัครไว้ ผมเลือกสายศิลป์นะคับ ผมบอกกับอาจารย์หลังจากที่รู้ตัวว่าต้องไปเรียนห้องสายวิทย์
                “ตอนเธอสมัครน่ะ เค้ามีใบสีชมพู กับสีเขียว เธอเขียนใบไหนอาจารย์ถามผม
                “สี ไหนผมก็เริ่มต้นคิด
                “เอ้า สีไหนยังจำไม่ได้เลย ครูว่าเธอเขียนใบสีเขียวล่ะซิ แย่จังว่าพลางหันไปปรึกษากับเพื่อนครูคนอื่น ที่ยังดูยุ่งวุ่นวายเหมือนกัน
                “เอางี้ เธอไปเรียนห้องนี้ก่อน แล้วถ้าย้ายห้องได้แล้ว จะให้คนไปบอกนะครูคนนั้นรีบตัดบท ซึ่งผมก็ไม่ค่อยพอใจเอามากๆอ่ะ ตอนโรงเรียนเก่า ผมไม่ได้เรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ มานี่หว่า แล้วจะให้มาเรียนกะห้องวิทย์ได้ไงวะ แถมวิชาแรกวันนี้ มันคือ เคมี !!

ผมเดินแบบเกร็งๆไปอยู่ที่หน้าห้องเรียน ซึ่งตอนนี้ก็ทำการเรียนการสอนไปได้เกือบครึ่งคาบแล้ว
                “มายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เธอครูในห้องเหลือบมาเห็นผมเข้าพอดี พร้อมๆกับสายตาคนในห้องก็หันมามองที่ตัวผม โอ้ว พระเจ้าจอร์จ อาย
                “คะ คือ ผมเป็นนักเรียนใหม่ครับ จะมาอยู่ห้องนี้ผมบอกอาจารย์ คนในห้องก็ซุบซิบๆคับ ยิ่งทำให้ผมตื่นตระหนกเข้าไปอีก ผมลืมขึ้นไปเลยว่า สังคมเด็กในกรุงเทพก็อีกอย่างนึง สังคมเด็กต่างจังหวัดก็คงจะเป็นอีกอย่างนึง พึ่งจะมาบรรลุเอาตอนนี้อ่ะคับ แล้วจากนั้น คาบชีวะในตอนแรก ก็เปลี่ยนมาเป็นคาบแนะนำตัวผมหน้าชั้น ซึ่งเป็นอะไรที่ผมเกลียดอย่างแรง
                “มาจากไหนอ่ะ
                “กรุงเทพคับ
                “จบจากไหนมาอ่ะ
                “สวนกุหลาบ
                “ฮิ้ววววว สวนกุหลาบด้วยจะฮิ้วห่าไรพวกมึง
                “ทำไมขาวจัง
                “เออ …” เอ้า ขาวก็ผิด
                “มีแฟนยังอ่ะเธอ
                “เออ…” ถามเพื่อราย

จนหมดคาบ ผมรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก โรงเรียนเก่าผมไม่มีผู้หญิงคับ ยิ่งทำให้วางตัวไม่ถูกหนักเข้าไปใหญ่ อะไรๆก็ดูแปลกไปหมด พอหมดคาบเรียนแรก ก็ต้องย้ายไปเรียนที่ห้องอื่น ที่นี่จะเป็นแบบเดินเรียนครับ มองไปมองไปในห้องผมก็ดูเหมือนเค้าจะสนิทกันเป็นกลุ่มดีอยู่แล้ว ทำให้ยิ่งรู้สึกลำบากใจมากขึ้น (พวกเข้ามาตอน ม5 6 ก็จะรู้สึกประมาณนี้อ่ะ)

วันนี้เรียนไปจบหมดวันคับ ก็ยังไม่มีเพื่อนสนิท หรือรู้จักใครมากเป็นพิเศษ ตอนเช้าโอ้ตมันก็นัดผมให้มาคอยอยู่ที่หน้าห้องปกครอง เพราะว่ามันเป็นกรรมการนักเรียนคับ แล้วตลอดทั้งวันนี่ ผมก็ไม่ได้เจอโอ้ตมันเลย ยิ่งเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงอ่ะ (เว่อร์ม่ะ)

ผมก็รอไปเรื่อยเปื่อยที่หน้าห้องปกครอง ซักพักก็มองเข้าไป ก็เจอพวกอาจารย์ปกครอง ที่แค่ดูหน้าก็ยกตำแหน่งให้ได้เลย กะลังเหมือนจะทำโทษเด็กครับ

มึงจะมาเรียน หรือมึงจะมาต่อยกันห่ะ พ่อแม่มึงส่งมาให้เรียนดีๆไม่ชอบ เป็นห่าไรวะเสียงอาจารย์ดังจนผมได้ยิน อดนึกในใจไม่ได้ว่า ถ้าเป็นผมเข้าไปอยู่แบบนั้น มีหวังซีด จากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียง เปี้ยยยยยะ ประมาณ 6 -7 ทีได้

โอ้ โอ้ โอ้ตอยู่ไหนว้า ให้กรูมานั่งเหมือนแดนประหารแบบนี้ อ้ายโอ้ตตตตต

ผมพึมพำอยู่ในใจ ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อไอ้คนที่พึ่งโดนตีมาหมาดๆ เดินลงมาจากห้องปกครองพร้อมกับเพื่อนอีกคน และเสียงสบถออกมามากมาย
                “ไอ้เหี้ย เอ้ย เจ็บชิบหาย กูไม่น่าช่วยมึงเลย ไอ้สัด
                “ห่าคิว มาโทดกู ทีตอนต่อยอ่ะ ซัดเอาซัดเอา แมร่งพูดมาพร้อมกับเอามือจับตูดกันทั้งสองคนคับ ผมก็มองๆ ไม่ได้มีเจตนาเยาะเย้ยเลยนะ
                “มองเหี้ยอะไรไอ้คนที่เพื่อนเรียกว่าคิว หันมามองผมพอดี เลยเป็นเรื่องเลย และด้วยอะไรไม่ทราบ สันดานการชอบเถียงของผมตอนนี้อยู่ในโหมดออฟไลน์
                “ป่าวมองผมพูดพลางหลบตา
                “ก็ม่ะกี้มึงมองเนี่ยมันย่างสามขุมเข้ามาหาผม เอ้ย จะหาเรื่องกูเหรอ
                “เฮ้ย มึงคุยไรกะน้องกูวะอ่า พระเอกของโพ้มมมม โอ้ตมันเดินลงมาจากห้องปกครองพอดี แล้วก็คงเห็นไอ้คนที่ชื่อคิว กะลังเดินมาใส่ผม
                “น้อง .. ไอ้คิวว่าพลางหันมองผมอีกรอบ เออ

แล้วมานก็เดินไปคับ โอ้ตก็ถามว่ามันมาทำไรป่าว ผมก็บอกป่าว โอ้ตมันบอกว่า ไอ้คิวเนี่ย อยู่ชั้นเดียวกับผมล่ะ แต่ไอ้นี่มันก็ไม่ได้กลัวพวกรุ่นพี่อะไรเท่าไร มันกลัวคนเดียว คือหมูหยองคับ (ชื่อเรียกครูปกครองคนนึง) แล้ววันนี้มันก็ไปหาเรื่องต่อยกะน้อง ม 4 มา เลือดอาบอ่ะ หมายถึงน้องนะ มันไม่เป็นไรเลย



โหดโคตร

ติดตามชมตอนต่อไป