พอโอ้ตมันจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็พาผมเดินออกมาหาอะไรกินหน้าโรงเรียน มันเป็นคล้ายๆกับตลาดนัดอ่ะ ของขายเยอะดี
โดยเฉพาะของกิน หุหุ ระหว่างเดินไปเดินมา โอ้ตมันก็ทักคนนั้นที คนโน้นที
ทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง รู้จักคนเยอะมากๆอ่ะ แต่เวลามันจะแนะนำผมทีไร มันก็ทำท่าอ้ำอึ้งๆ
โถ ก็บอกว่าให้แนะนำว่ากรูเป็นน้องก็หมดเรื่องแระ คิดไรมาก เดินไปเดินมา ก็มานั่งรอรถกลับกันที่ป้ายรถหน้าโรงพยาบาลครับ
“แล้วโอ้ตรู้จักมันเหรอ ไอ้คิวเนี่ย”
“ไม่มีใครไม่รู้จักมันหรอก ไอ้นี่น่ะครูเค้าจะเชิญให้ออกกันทั้งโรงเรียนแล้ว”
“เลวขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามทำหน้าเลิกลั่ก
โอ้ตมองหน้าผมประมาณว่า อยากรู้ไปทำไม แต่ก็บอกคร่าวๆว่า ไอ้คิวเนี่ย ตอนม ต้นมันเป็นเด็กดีมากๆนะ จากนั้นพอมันขึ้นม ปลาย ก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน เพราะมันไปคบเพื่อนเหี้ยๆ แล้วเพื่อนมันแต่ละคนก็หวังจะจับมันเพราะว่าบ้านมันรวย พอมันขึ้นม 5 บ้านมันก็มีปัญหาเพราะว่าพ่อตาย แม่มันก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ มันก็ยิ่งเสียศูนย์ไปใหญ่เลย
“ไอ้นี่นะ เป็นพวกที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง เป็นพวกดันทุรัง แล้วก็มาระบายออกในสิ่งที่เลวๆไง” โอ้ตว่า
“อ่าหะ ….. ว่าแต่หายโกรธแล้วดิ ”
โอ้ตมันดูเหมือนไมได้ทันตั้งตัวกับคำถามนี้ เลยทำหันหน้าไปทางอื่นซะงั้น แฮ่ๆ หายโกรธแล้วละซิ ผมก็แกล้งเอานิ้วไปจิ้มเอวมันคับ
“เฮ้ย ทำไร มันเอามื”อมาปัดคับ แต่หน้ามันยิ้มแระ
“บ้าจี้เด๊ะ” ผมได้ทีครับ เลยจิ้มอีก 555 (เลวม่ะ)
“เฮ้ย … ไม่เล่น เอ้ยยย เดี๋ยว เอ้ยย” มันร้องใหญ่เลยคับ ตลกดี “หยุดได้แล้วววววว ”
แล้วโอ้ตก็เอามือมาจับผมไว้ทั้งสองมือเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ มือไอ้โอ้ตอุ่นมากๆอ่ะ
“ทำไมคุณปริ้นมือนิ่มจังอ่ะ” ซะงั้น หลอกจับมือกู
“ก็บอกแล้วไง ม่ะต้องเรียกว่าคุณ” ผมบอกพลางรีบทำทีสะบัดมือด้วยความเหนียมอาย เอาปากกัดนิ้วชี้ทำท่าเขิล หุหุ แค่สะบัดมือเฉยๆเฟร้ย !!
“นิ่มแล้วผิดตรงไหนฟะ ไหนๆ ของตัวเองอ่ะ” ว่าแล้วผมก็ไปจับมือมัน แต่ … แฮ่ม ผมเผลอพูดคำว่า ตัวเอง กับไอ้โอ้ตไปแบบลืมตัว แต่มันก็ดูไม่ได้ติดใจอะไร เออ เกือบไปแระ
ผมก็เอามือลูบไปลูบมา เพลินดีครับ มือสากๆกว่าผมนิดหน่อย มันดูท่าทางจั๊กจี้ครับ โชคดีนะที่ที่เรานั่งพลอดรัก … เอ้ย คุยกันมันเป็นช่วงที่มืดนิดหน่อย เลยไม่เป็นที่สังเกต แล้วมันก็เย็นพอควรแล้วล่ะ แล้วผมก็ไปเห็นรอยแดงเป็นจุดๆที่มือโอ้ต
“เจ็บมากป่าว” จริงๆอยากบอกว่า ขอโทษ
โอ้ตมันก็ส่ายหน้า “ไม่เจ็บ แค่นี้เอง ”
โห มันทำแมน
ตอนนั้นรถที่พาเรากลับบ้านได้มันผ่านไป 3 คันแล้วครับ แต่ผมก็แบบว่าอ้างไปเรื่อยล่ะว่า ไม่อยากนั่งรถคนเยอะ ไม่อยากเบียดอะไรเทือกนี้ โอ้ตมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็นั่งคอยกันไป โอ้ตตอนอยู่โรงเรียน ดีกว่าตอนอยู่ที่บ้านมากอะฮะ เพราะว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อยากให้มันเป็นพี่ผมจริงๆเลย ให้ตายดิโรบิ้น ผมไม่มีพี่ชายไง
จนเกือบ สองทุ่มแล้วครับ ปริ้นมันก็เลยบอกว่าถ้าไม่ขึ้นรอบนี้ก็ไม่มีแล้วนะ ผมก็เลยต้องเออออ ขึ้นไป คนก็ยังพอมีนิดหน่อย พอมีที่นั่ง พอรถออกจากตัวเมืองได้พักนึง รถก็ปิดไฟมืดทั้งรถเลย
“ง่วงอ่ะ นอนนะ” ผมว่า พลางปรับเบาะให้มันเอนลง
“เอากระเป๋ามานี่ก็ได้ จะได้นอนสะดวก” โอ้ตมันพูดแล้วดึงกระเป๋าที่ตักไปโดยไม่รอคำตอบ
“ขอบใจ ”
“อะไรนะ ? ”
“ป่าว” แล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่างครับ ชิส์ ทำหูทวนลมนะคุณโอ้ตตต
นั่งไปนั่งมา ผมก็ไม่หลับอ่ะ ไม่รู้เป็นไร ก็พลิกกลับตัวมา แล้วก็เหลือบไปทางโอ้ตคับ เห็นมันก็นั่งสัปหงกอยู่
หงึก
หงึก
หงึก
มันลืมตาคับ ผมก็แกล้งฟอร์มหลับตา ตอนนั้นคิดไรม่ะรู้ครับ อยากแกล้งด้วยมั้ง ช่วงที่รถมันสะเทือนๆ หัวผมก็เลื่อนไปทีละนิด ทีละนิด จนรู้สึกว่าไปพิงอยู่กับต้นแขนโอ้ตมัน อ่า นิ่มๆ แข็งๆ ตบท้ายความเนียนอย่างสมบูรณ์ เมื่อช่วงที่รถมันเลี้ยวโค้ง ตัวเราสองคนก็เรียกว่าเกือบแนบชิดกันเลยอ่ะ หุหุ น้องเนียนมากกู
โอ้ตมันก็หันมาทางผมครับ รู้สึกได้ตอนที่ลมหายใจมันมากระทบกับหัว และผมก็ได้ยินเสียง ….
- ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก –
เสียงหัวใจโอ้ตฮะ แต่มันก็เต้นแบบปกตินะ ไม่ได้แบบสูบฉีดอะไรมากมาย แอบผิดหวังเล็กๆ 555 นี่กูคิดไรกะพี่กูวะเนี่ยยย ม่ะเข้าใจจิตใจตัวเองเลย แต่ตอนนี้ …
ผมรู้สึกอบอุ่นมาก จนอยากให้รถมันวิ่งลงไปถึงนราธิวาสเลย ^^
“ปริ้น …”
“หือ”
“ใกล้แล้ว ”
“หือ อีกนิดน่า”
“ปริ้น มันแฉะ”
“หือ ลามกวะ” ผมยังงัวเงียตอนที่โอ้ตปลุก แล้วก็ได้ยินมันว่าผมอะไรแฉะๆนี่ล่ะ แมร่ง ม่ะได้ทำไรกันนะจะน้ำแตกได้ไง (เหอๆ คิดไปโน่น)
“อะไรลามก ? ” แล้วมันก็หันเสื้อที่เปียกน้ำลายให้ดู
“เอ๊ะ น้ำอารายอ่ะ” ผมแกล้งทำเสียงปัญญาอ่อน แล้วก็ยิ้มแฮะๆ โอ้ตมันก็พึมพำว่า คนไรวะ นอนน้ำลายไหลได้ทุกวัน
กลับมาถึงบ้าน ผมก็เห็นเค้าลางไม่ดีแล้วอ่ะ เมื่อเห็นป้าเล็กมายืนรออยู่หน้าบ้านป้าเล็กหรือแม่โอ้ตนั่นล่ะ ผมหันไปมองหน้าพี่โอ้ต ก็เสียเหมือนกัน
“ไอ้โอ้ต ทำไมพาน้องกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้ รู้มั้ยเค้าเป็นห่วงกันขนาดไหน” แม่โอ้ตมันตวาดลั่นบ้านเลย
“ขอโทษครับ” โอ้ตยกมือไหว้แม่ตัวเอง
“แล้วแบบนี้จะให้แม่ไว้ใจ ไปไหนมาไหนกับน้องได้ไง !! ดูซิ แค่วันแรกก็พากันไปตะลอนกลับเอาป่านนี้ ข้าวปลาจะได้กินกันเมื่อไร เกิดใคร บลาๆๆๆ อีกยาวโดยมี ผมยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างพี่โอ้ต
“เออ ป้า - - -” ผมกะลังจะพูดบ้าง
“คุณปริ้นก็เหมือนกัน ทำแบบนี้คุณยายเป็นห่วงรู้มั้ยคะ อ้าว กูโดนบ้างแระ ป้าจัดกับข้าวไว้บนเรือนแล้ว คุณปริ้นรีบไปกินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นหมด
“โอ้ต เข้าบ้าน ต้องฟาดกันบ้างแล้ว” ป้าเล็กพูด โอ้ตก็หันมาทางผมแป็บนึง แล้วก็เดินเข้าไปที่บ้านเค้าเลย บริเวณบ้านยายมี 4 หลังครับ มีบ้านใหญ่ บ้านที่ผมอยู่ แล้วก็บ้านของคนที่บ้านอีก 2 หลัง โห ทำไมต้องฟาดกันด้วยอ่ะ โตขนาดนี้แล้ว ผมมองหน้าป้าเล็ก คิดในใจ
ผมก็ขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ยายผมก็นั่งดูทีวีอยู่
“ยาย กลับมาแล้ว - - คับ”
“กลับมาแล้วก็รีบกินข้าวกินปลาซะ เย็นหมดแล้ว” ยายผมบอก ไม่มีท่าทีโกรธเหมือนป้าเล็กเลยแฮะ “แล้วเจ้าโอ้ตไปไหน”
“ป้าเล็กเรียกไปที่บ้านอ่ะยาย ท่าทางโกรธมากด้วย”
“เล็กเค้าก็เป็นแบบนี้ล่ะ เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง ”
“เค้าจะตีพี่โอ้ต” ผมรีบฟ้องยายทันที หวังว่ายายคงจะช่วยได้
“แล้วทำไมปริ้นถึงกลับมาช้าล่ะลูก” ยายผมถามอย่างใจเย็น ตาก็ดูทีวีไป
“คือ คือ …คือปริ้นต้องทำเรื่องย้ายห้องอ่ะครับ ครูเค้าให้ปริ้นเรียนห้องสายวิทย์อ่ะ” ผมนึกคำตอแหลได้แบบสดๆร้อนๆ
“เลยต้องอยู่เย็น ? ” ยายผมส่งสายตามา
เฮือก
“ครับ” ผมตอบแบบเสียไม่ได้
แล้วก็เหมือนสวรรค์ช่วยคับ ยายลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ได้ยินเหมือนคุยกับป้าเล็ก คือ โทรศัพท์ที่บ้านมันจะแบบพ่วงต่อกันหมดเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เหนื่อย ผมก็ลุ้นๆอยู่ แล้วยายก็วางโทรศัพท์แล้วก็เดินมาปิดทีวี
“แม่เค้าฟาดลูกไป 3 ทีแล้ว นี่ก็จะไม่ให้มากินข้าวด้วย แต่ยายบอกว่า ให้มากินเถอะ” ยายบอกผม
“ปริ้น เดี๋ยวยายเข้านอนก่อนนะ พอเจ้าโอ้ตมากินข้าวแล้วก็ให้ปิดประตูด้วย”
“ครับ”
“- - เออ แล้วเมื่อกี้แม่เจ้าโอ้ตเค้าบอก เจ้าโอ้ตสารภาพว่า มัวแต่ซ้อมบอลจนลืมเวลา ก็เลยกลับดึก ทีหน้าทีหลัง จะซ้อมฟุตบอล หรือ ทำเรื่องย้ายห้อง ก็ทำให้มันเร็วๆหน่อยนะลูกปริ้น ”
ว่าแล้วยายก็เดินไปในห้องด้วยสีหน้าเหมือนจับผิดหลานได้แบบนั้นล่ะ
ลงจากเรือนปั๊บ ผมก็วิ่งแจ้นไปทางบ้านโอ้ตเลย ป่านนี้จะเป็นไรมากป่าวน้า มันเจ็บเพราะผมอีกแล้ว อยากจะขอโทษเป็นพันครั้ง เดินไปจนถึงหน้าประตูบ้าน แต่ก็ไม่กล้าจะเคาะอ่ะ ก็เดินวนๆ รอ แต่ก็ไม่ยักออกมาซะที พอดีกับเห็นเงาคนลางๆ นั่งอยู่ที่ม้านั่ง
“โอ้ต…” ผมทัก เจ้าของเงาสะดุ้งตัว แล้วก็เอามือปาดที่ใบหน้า ถึงมันมืดไม่เห็นอะไร ก็พอรู้ว่าโอ้ตมันร้องไห้
“ว่าไง” น้ำเสียงมันแกล้งทำเป็นปกติ
“ป่ะ ไปกินข้าวกัน ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่หิว”
“เฮ้ย ไม่หิวได้ไง ก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน ป่ะ” ว่าแล้วผมก็เดินไปจูงมือมันออกจากเงามืด แอบเหลือบมอง ก็เห็นเป็นคราบน้ำตาจริงๆครับ
“ไม่หิว จริงๆนะ” โอ้ตตอบผมเบาๆ
ผมอยากจะเอาอะไรที่ผมมีอยู่แลก เพียงเพราะแค่ให้อ้าปาก แล้วบอกคำว่าขอโทษกับโอ้ต แต่ทำไมมันถึงพูดไม่ออกวะ ไอ้เชี่ย
“แต่เราหิวหว่ะโอ้ต” ผมพูดแกมบังคับ
โอ้ตมันก็มองหน้าผมครับ
“ขอโทษครับ แต่ว่า ….. เลิกบังคับผมซะทีเหอะ” สีหน้าโอ้ตพูดแบบจริงจังมาก จนผมกลัว
“- - -”
เฮ้ยๆ มึง หยุดเลย กูบอกให้หยุด หยุด หยุด หยุด อย่านะว้อยยยยย
ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งแบบนั้น แต่ก็มีของเหลวใสๆ หยดลงมาจนได้ ทำไมผมถึงเสียใจกับคำพูดของโอ้ตขนาดนี้วะ
“อืม …. ขะ ขอโทษ - - - ขอโทษที่เราชอบสั่งนาย บังคับนาย ทำสิ่งที่นายไม่ชอบ ”
หยดที่สองไหลก็ไหลตามมา
“ขอโทดที่ต้องให้เสียเวลาไปซื้อนั่นซื้อนี้ ขอโทษที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ฮึก… ตะ แต่ตอนนี้ เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนนายแล้ว ”
พูดเสร็จ ผมก็เอามือปาดน้ำตา แล้วก็จ้ำพลวดๆกลับเข้าบ้านเลย ข้าวปลาไม่กินแล้วคับ อารมณ์มันน้อยใจง่ะ แต่เราจะน้อยใจไปทำไมวะ เค้าไม่ใช่ญาติเรา ไม่ใช่พี่เรา ไม่ได้เป็นอะไรกับเราซะหน่อย เรามันก็เป็นแค่หลานของเจ้านายเค้าเท่านั้น แหม ทำไมยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลวะ กูอ่อนแอจังวะ แค่นี้เอง
ปั้งๆ เสียงเคาะประตู
ปั้งๆๆ
แอ๊ดด
“ทำไมต้องร้องไห้ด้วย ?” โอ้ตมันเปิดประตูเข้า หน้าแมร่งโคตรโหดเลย .. จะตามมาฆ่ากูเหรอเนี่ยยย
โถ ก็บอกว่าให้แนะนำว่ากรูเป็นน้องก็หมดเรื่องแระ คิดไรมาก เดินไปเดินมา ก็มานั่งรอรถกลับกันที่ป้ายรถหน้าโรงพยาบาลครับ
“แล้วโอ้ตรู้จักมันเหรอ ไอ้คิวเนี่ย”
“ไม่มีใครไม่รู้จักมันหรอก ไอ้นี่น่ะครูเค้าจะเชิญให้ออกกันทั้งโรงเรียนแล้ว”
“เลวขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามทำหน้าเลิกลั่ก
โอ้ตมองหน้าผมประมาณว่า อยากรู้ไปทำไม แต่ก็บอกคร่าวๆว่า ไอ้คิวเนี่ย ตอนม ต้นมันเป็นเด็กดีมากๆนะ จากนั้นพอมันขึ้นม ปลาย ก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน เพราะมันไปคบเพื่อนเหี้ยๆ แล้วเพื่อนมันแต่ละคนก็หวังจะจับมันเพราะว่าบ้านมันรวย พอมันขึ้นม 5 บ้านมันก็มีปัญหาเพราะว่าพ่อตาย แม่มันก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ มันก็ยิ่งเสียศูนย์ไปใหญ่เลย
“ไอ้นี่นะ เป็นพวกที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง เป็นพวกดันทุรัง แล้วก็มาระบายออกในสิ่งที่เลวๆไง” โอ้ตว่า
“อ่าหะ ….. ว่าแต่หายโกรธแล้วดิ ”
โอ้ตมันดูเหมือนไมได้ทันตั้งตัวกับคำถามนี้ เลยทำหันหน้าไปทางอื่นซะงั้น แฮ่ๆ หายโกรธแล้วละซิ ผมก็แกล้งเอานิ้วไปจิ้มเอวมันคับ
“เฮ้ย ทำไร มันเอามื”อมาปัดคับ แต่หน้ามันยิ้มแระ
“บ้าจี้เด๊ะ” ผมได้ทีครับ เลยจิ้มอีก 555 (เลวม่ะ)
“เฮ้ย … ไม่เล่น เอ้ยยย เดี๋ยว เอ้ยย” มันร้องใหญ่เลยคับ ตลกดี “หยุดได้แล้วววววว ”
แล้วโอ้ตก็เอามือมาจับผมไว้ทั้งสองมือเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ มือไอ้โอ้ตอุ่นมากๆอ่ะ
“ทำไมคุณปริ้นมือนิ่มจังอ่ะ” ซะงั้น หลอกจับมือกู
“ก็บอกแล้วไง ม่ะต้องเรียกว่าคุณ” ผมบอกพลางรีบทำทีสะบัดมือด้วยความเหนียมอาย เอาปากกัดนิ้วชี้ทำท่าเขิล หุหุ แค่สะบัดมือเฉยๆเฟร้ย !!
“นิ่มแล้วผิดตรงไหนฟะ ไหนๆ ของตัวเองอ่ะ” ว่าแล้วผมก็ไปจับมือมัน แต่ … แฮ่ม ผมเผลอพูดคำว่า ตัวเอง กับไอ้โอ้ตไปแบบลืมตัว แต่มันก็ดูไม่ได้ติดใจอะไร เออ เกือบไปแระ
ผมก็เอามือลูบไปลูบมา เพลินดีครับ มือสากๆกว่าผมนิดหน่อย มันดูท่าทางจั๊กจี้ครับ โชคดีนะที่ที่เรานั่งพลอดรัก … เอ้ย คุยกันมันเป็นช่วงที่มืดนิดหน่อย เลยไม่เป็นที่สังเกต แล้วมันก็เย็นพอควรแล้วล่ะ แล้วผมก็ไปเห็นรอยแดงเป็นจุดๆที่มือโอ้ต
“เจ็บมากป่าว” จริงๆอยากบอกว่า ขอโทษ
โอ้ตมันก็ส่ายหน้า “ไม่เจ็บ แค่นี้เอง ”
โห มันทำแมน
ตอนนั้นรถที่พาเรากลับบ้านได้มันผ่านไป 3 คันแล้วครับ แต่ผมก็แบบว่าอ้างไปเรื่อยล่ะว่า ไม่อยากนั่งรถคนเยอะ ไม่อยากเบียดอะไรเทือกนี้ โอ้ตมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็นั่งคอยกันไป โอ้ตตอนอยู่โรงเรียน ดีกว่าตอนอยู่ที่บ้านมากอะฮะ เพราะว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อยากให้มันเป็นพี่ผมจริงๆเลย ให้ตายดิโรบิ้น ผมไม่มีพี่ชายไง
จนเกือบ สองทุ่มแล้วครับ ปริ้นมันก็เลยบอกว่าถ้าไม่ขึ้นรอบนี้ก็ไม่มีแล้วนะ ผมก็เลยต้องเออออ ขึ้นไป คนก็ยังพอมีนิดหน่อย พอมีที่นั่ง พอรถออกจากตัวเมืองได้พักนึง รถก็ปิดไฟมืดทั้งรถเลย
“ง่วงอ่ะ นอนนะ” ผมว่า พลางปรับเบาะให้มันเอนลง
“เอากระเป๋ามานี่ก็ได้ จะได้นอนสะดวก” โอ้ตมันพูดแล้วดึงกระเป๋าที่ตักไปโดยไม่รอคำตอบ
“ขอบใจ ”
“อะไรนะ ? ”
“ป่าว” แล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่างครับ ชิส์ ทำหูทวนลมนะคุณโอ้ตตต
นั่งไปนั่งมา ผมก็ไม่หลับอ่ะ ไม่รู้เป็นไร ก็พลิกกลับตัวมา แล้วก็เหลือบไปทางโอ้ตคับ เห็นมันก็นั่งสัปหงกอยู่
หงึก
หงึก
หงึก
มันลืมตาคับ ผมก็แกล้งฟอร์มหลับตา ตอนนั้นคิดไรม่ะรู้ครับ อยากแกล้งด้วยมั้ง ช่วงที่รถมันสะเทือนๆ หัวผมก็เลื่อนไปทีละนิด ทีละนิด จนรู้สึกว่าไปพิงอยู่กับต้นแขนโอ้ตมัน อ่า นิ่มๆ แข็งๆ ตบท้ายความเนียนอย่างสมบูรณ์ เมื่อช่วงที่รถมันเลี้ยวโค้ง ตัวเราสองคนก็เรียกว่าเกือบแนบชิดกันเลยอ่ะ หุหุ น้องเนียนมากกู
โอ้ตมันก็หันมาทางผมครับ รู้สึกได้ตอนที่ลมหายใจมันมากระทบกับหัว และผมก็ได้ยินเสียง ….
- ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก –
เสียงหัวใจโอ้ตฮะ แต่มันก็เต้นแบบปกตินะ ไม่ได้แบบสูบฉีดอะไรมากมาย แอบผิดหวังเล็กๆ 555 นี่กูคิดไรกะพี่กูวะเนี่ยยย ม่ะเข้าใจจิตใจตัวเองเลย แต่ตอนนี้ …
ผมรู้สึกอบอุ่นมาก จนอยากให้รถมันวิ่งลงไปถึงนราธิวาสเลย ^^
“ปริ้น …”
“หือ”
“ใกล้แล้ว ”
“หือ อีกนิดน่า”
“ปริ้น มันแฉะ”
“หือ ลามกวะ” ผมยังงัวเงียตอนที่โอ้ตปลุก แล้วก็ได้ยินมันว่าผมอะไรแฉะๆนี่ล่ะ แมร่ง ม่ะได้ทำไรกันนะจะน้ำแตกได้ไง (เหอๆ คิดไปโน่น)
“อะไรลามก ? ” แล้วมันก็หันเสื้อที่เปียกน้ำลายให้ดู
“เอ๊ะ น้ำอารายอ่ะ” ผมแกล้งทำเสียงปัญญาอ่อน แล้วก็ยิ้มแฮะๆ โอ้ตมันก็พึมพำว่า คนไรวะ นอนน้ำลายไหลได้ทุกวัน
กลับมาถึงบ้าน ผมก็เห็นเค้าลางไม่ดีแล้วอ่ะ เมื่อเห็นป้าเล็กมายืนรออยู่หน้าบ้านป้าเล็กหรือแม่โอ้ตนั่นล่ะ ผมหันไปมองหน้าพี่โอ้ต ก็เสียเหมือนกัน
“ไอ้โอ้ต ทำไมพาน้องกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้ รู้มั้ยเค้าเป็นห่วงกันขนาดไหน” แม่โอ้ตมันตวาดลั่นบ้านเลย
“ขอโทษครับ” โอ้ตยกมือไหว้แม่ตัวเอง
“แล้วแบบนี้จะให้แม่ไว้ใจ ไปไหนมาไหนกับน้องได้ไง !! ดูซิ แค่วันแรกก็พากันไปตะลอนกลับเอาป่านนี้ ข้าวปลาจะได้กินกันเมื่อไร เกิดใคร บลาๆๆๆ อีกยาวโดยมี ผมยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างพี่โอ้ต
“เออ ป้า - - -” ผมกะลังจะพูดบ้าง
“คุณปริ้นก็เหมือนกัน ทำแบบนี้คุณยายเป็นห่วงรู้มั้ยคะ อ้าว กูโดนบ้างแระ ป้าจัดกับข้าวไว้บนเรือนแล้ว คุณปริ้นรีบไปกินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นหมด
“โอ้ต เข้าบ้าน ต้องฟาดกันบ้างแล้ว” ป้าเล็กพูด โอ้ตก็หันมาทางผมแป็บนึง แล้วก็เดินเข้าไปที่บ้านเค้าเลย บริเวณบ้านยายมี 4 หลังครับ มีบ้านใหญ่ บ้านที่ผมอยู่ แล้วก็บ้านของคนที่บ้านอีก 2 หลัง โห ทำไมต้องฟาดกันด้วยอ่ะ โตขนาดนี้แล้ว ผมมองหน้าป้าเล็ก คิดในใจ
ผมก็ขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ยายผมก็นั่งดูทีวีอยู่
“ยาย กลับมาแล้ว - - คับ”
“กลับมาแล้วก็รีบกินข้าวกินปลาซะ เย็นหมดแล้ว” ยายผมบอก ไม่มีท่าทีโกรธเหมือนป้าเล็กเลยแฮะ “แล้วเจ้าโอ้ตไปไหน”
“ป้าเล็กเรียกไปที่บ้านอ่ะยาย ท่าทางโกรธมากด้วย”
“เล็กเค้าก็เป็นแบบนี้ล่ะ เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง ”
“เค้าจะตีพี่โอ้ต” ผมรีบฟ้องยายทันที หวังว่ายายคงจะช่วยได้
“แล้วทำไมปริ้นถึงกลับมาช้าล่ะลูก” ยายผมถามอย่างใจเย็น ตาก็ดูทีวีไป
“คือ คือ …คือปริ้นต้องทำเรื่องย้ายห้องอ่ะครับ ครูเค้าให้ปริ้นเรียนห้องสายวิทย์อ่ะ” ผมนึกคำตอแหลได้แบบสดๆร้อนๆ
“เลยต้องอยู่เย็น ? ” ยายผมส่งสายตามา
เฮือก
“ครับ” ผมตอบแบบเสียไม่ได้
แล้วก็เหมือนสวรรค์ช่วยคับ ยายลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ได้ยินเหมือนคุยกับป้าเล็ก คือ โทรศัพท์ที่บ้านมันจะแบบพ่วงต่อกันหมดเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เหนื่อย ผมก็ลุ้นๆอยู่ แล้วยายก็วางโทรศัพท์แล้วก็เดินมาปิดทีวี
“แม่เค้าฟาดลูกไป 3 ทีแล้ว นี่ก็จะไม่ให้มากินข้าวด้วย แต่ยายบอกว่า ให้มากินเถอะ” ยายบอกผม
“ปริ้น เดี๋ยวยายเข้านอนก่อนนะ พอเจ้าโอ้ตมากินข้าวแล้วก็ให้ปิดประตูด้วย”
“ครับ”
“- - เออ แล้วเมื่อกี้แม่เจ้าโอ้ตเค้าบอก เจ้าโอ้ตสารภาพว่า มัวแต่ซ้อมบอลจนลืมเวลา ก็เลยกลับดึก ทีหน้าทีหลัง จะซ้อมฟุตบอล หรือ ทำเรื่องย้ายห้อง ก็ทำให้มันเร็วๆหน่อยนะลูกปริ้น ”
ว่าแล้วยายก็เดินไปในห้องด้วยสีหน้าเหมือนจับผิดหลานได้แบบนั้นล่ะ
ลงจากเรือนปั๊บ ผมก็วิ่งแจ้นไปทางบ้านโอ้ตเลย ป่านนี้จะเป็นไรมากป่าวน้า มันเจ็บเพราะผมอีกแล้ว อยากจะขอโทษเป็นพันครั้ง เดินไปจนถึงหน้าประตูบ้าน แต่ก็ไม่กล้าจะเคาะอ่ะ ก็เดินวนๆ รอ แต่ก็ไม่ยักออกมาซะที พอดีกับเห็นเงาคนลางๆ นั่งอยู่ที่ม้านั่ง
“โอ้ต…” ผมทัก เจ้าของเงาสะดุ้งตัว แล้วก็เอามือปาดที่ใบหน้า ถึงมันมืดไม่เห็นอะไร ก็พอรู้ว่าโอ้ตมันร้องไห้
“ว่าไง” น้ำเสียงมันแกล้งทำเป็นปกติ
“ป่ะ ไปกินข้าวกัน ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่หิว”
“เฮ้ย ไม่หิวได้ไง ก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน ป่ะ” ว่าแล้วผมก็เดินไปจูงมือมันออกจากเงามืด แอบเหลือบมอง ก็เห็นเป็นคราบน้ำตาจริงๆครับ
“ไม่หิว จริงๆนะ” โอ้ตตอบผมเบาๆ
ผมอยากจะเอาอะไรที่ผมมีอยู่แลก เพียงเพราะแค่ให้อ้าปาก แล้วบอกคำว่าขอโทษกับโอ้ต แต่ทำไมมันถึงพูดไม่ออกวะ ไอ้เชี่ย
“แต่เราหิวหว่ะโอ้ต” ผมพูดแกมบังคับ
โอ้ตมันก็มองหน้าผมครับ
“ขอโทษครับ แต่ว่า ….. เลิกบังคับผมซะทีเหอะ” สีหน้าโอ้ตพูดแบบจริงจังมาก จนผมกลัว
“- - -”
เฮ้ยๆ มึง หยุดเลย กูบอกให้หยุด หยุด หยุด หยุด อย่านะว้อยยยยย
ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งแบบนั้น แต่ก็มีของเหลวใสๆ หยดลงมาจนได้ ทำไมผมถึงเสียใจกับคำพูดของโอ้ตขนาดนี้วะ
“อืม …. ขะ ขอโทษ - - - ขอโทษที่เราชอบสั่งนาย บังคับนาย ทำสิ่งที่นายไม่ชอบ ”
หยดที่สองไหลก็ไหลตามมา
“ขอโทดที่ต้องให้เสียเวลาไปซื้อนั่นซื้อนี้ ขอโทษที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ฮึก… ตะ แต่ตอนนี้ เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนนายแล้ว ”
พูดเสร็จ ผมก็เอามือปาดน้ำตา แล้วก็จ้ำพลวดๆกลับเข้าบ้านเลย ข้าวปลาไม่กินแล้วคับ อารมณ์มันน้อยใจง่ะ แต่เราจะน้อยใจไปทำไมวะ เค้าไม่ใช่ญาติเรา ไม่ใช่พี่เรา ไม่ได้เป็นอะไรกับเราซะหน่อย เรามันก็เป็นแค่หลานของเจ้านายเค้าเท่านั้น แหม ทำไมยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลวะ กูอ่อนแอจังวะ แค่นี้เอง
ปั้งๆ เสียงเคาะประตู
ปั้งๆๆ
แอ๊ดด
“ทำไมต้องร้องไห้ด้วย ?” โอ้ตมันเปิดประตูเข้า หน้าแมร่งโคตรโหดเลย .. จะตามมาฆ่ากูเหรอเนี่ยยย
ติดตามชมตอนต่อไป
ปล. ยังไม่ได้จัดเรียง ขออภัยมานะที่นี้นะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น