วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

มาๆอีกเรื่องนึง ตอนที่ 1

บ้านพักอลเวง 18+
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

นี้เป็นเช้าที่ค่อนข้างขมุกขมัวในชีวิตเด็กนักเรียนม.4 ตาดำๆคนหนึ่งที่มีอันต้องหันเหเปลี่ยนทิศทาง
                "ปริ้นไม่ไป ปริ้นจะอยู่ที่นี่ !! "
 ผมตะโกนเถียงแม่ทันทีที่รู้แน่ๆว่าต้องย้ายโรงเรียนแบบกลางอากาศ
               
"จะไม่ไป ก็ได้ แต่ปริ้นต้องหาที่อยู่ใหม่เองนะ !! พ่อเค้าจะขายบ้าน"
แม่ผมตอบแบบเอือมระอาเต็มทีพลางแพ็คของกล่อง
               
"ผมจะไปอยู่กะไอ้อ้นมันก็ได้" (อ้นเป็นเพื่อนสนิทผมครับ มันอยู่หอแถวโรงเรียน)
ผมตอบ
               
"แล้วค่ากิน ค่าอยู่ ก็ต้องหาเองด้วยนะ"
 แม่หันไปหยิบแจกันใบโปรดบรรจงใส่ลงอีกกล่อง

"แม่ แกล้งปริ้นเหรอ"
ผมชักเริ่มเดือด ผมไม่อยากย้ายโรงเรียนโว้ย โรงเรียนที่ผมอยู่มาเกือบ 5 ปี ผมไม่อยากไปเริ่มใหม่ที่ไหนนี่

แม่หันมาด้วยสีหน้าถมึงทึงทันที
                "ไม่ได้ว่าแกล้งปริ้น แต่แม่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ แม่ให้ปริ้นตัดสินใจเอาเองว่าจะไปอยู่กับยาย หรือ จะขนของย้ายไปอยู่กับเจ้าอ้น แล้วแกก็ไม่มีสิทธิมาตะคอกใส่ ชั้น แบบนี้ ชั้นเป็นแม่แกนะ !!"

"แม่อ่ะ ….". ผมโอดครวญ เงินเดือน partime ของเด็ก ม. ปลายที่ไหนจะพอกับ
ค่ากินค่าอยู่ในเมืองกรุงแบบนี้ล่ะครับ

                "อ้ายยยยอ้น มึงช่วยกูคิดหน่อยดิ กูไม่อยากย้ายไปบ้านนอกอ่ะ" ผมรีบโทร
ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนยามยาก

"แล้วมันไกลจากกรุงเทพมากเหรอวะ กร๊อบ" ไอ้อ้นถามผม แว่วได้ยินเสียงขนม ก็ไม่ไกลมาก 2 ชม. ก็ถึง ว่าแต่ สัดดด มึงตั้งใจฟังกูพูดป่าววะ"
                "เออ ฟังอยู่ แต่แม่มึงก็จัดการทีเรียนใหม่มึงเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ มึงก็บอกกูอยู่ - -"

กร๊อบบ
                "แล้วมึงจะเอาไงต่อ ?"
                "ยังไม่รู้วะ เออๆ มึงแดกต่อไปล่ะกัน กูไม่กวนมึงล่ะ"
ผมชักเริ่มโกรธและมันไม่เข้าใจความรู้สึกของผมบ้างเลย

ไปๆมาๆ ผมก็ต้องยอมจำนนกับทุกๆเรื่อง ผมจำเป็นต้องพรากจากสถานที่ผูกพันมาถึงเกือบครึ่งทศวรรศ
มาปักหลักและเริ่มต้นอยู่ ณ โรงเรียนต่างจังหวัดแห่งใหม่ กับผู้เป็นยาย เนื่องมาจาก พ่อของผมจำเป็นต้องย้ายไปรายการอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ แม่ก็ต้องตามไปด้วย แต่ ทำไมเค้าไม่พาผมไปด้วยก็ไม่รู้ เค้าคงมีเหตุผล และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ ทำให้ผมต้องมาเริ่มต้นชีวิตวัยรุ่น ณ ที่แห่งนี้ ผมเป็นคนที่ติดเพื่อนมากครับ ใครๆก็รู้ (แต่คุณอาจจะพึ่งรู้ตอนนี้ แฮะๆ) เพื่อนเฮไปไหน ผมก็เฮตาม เพื่อนมีอะไรใช้ ผมก็พยายามทำให้ อันเนื่องจากผมพอจะมีหัวสมองที่ดีกว่าคนอื่นนิดหน่อย
                "เฮ้ย ไว้วันเสาร์ อาทิตย์ มึงก็นั่งรถมาหาพวกกูก็ได"้ ไอ้อ้นบอกผมก่อนจะเดินทาง
                "แค่ 2 ชั่วโมงเองนิมึง …."
                "เออ "

ผมตอบได้แค่นั้นครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ ใจมันก็แป้วๆเหมือนกัน ไปอยู่ที่โน่นมันต้องไม่มีอะไรให้ทำแน่เลย ไม่มี เจเจ ให้ซื้อเสื้อแนวๆ ไม่มีพันทิพย์ให้ซื้อเอ็มพี 3 ไม่มีสะพานพุทธให้ซื้อของมือสอง =*=

เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ผมก็เดินทางมาถึงบ้านหลังใหม่โดยสวัสดิภาพจริงๆแล้วบ้านหลังนี้ ผมก็เคยมาค้างบ้างแล้ว เพราะทุกเดือนเมษา หรือปีใหม่พ่อแม่ก็จะพามาเยี่ยมยายเป็นประจำ แต่นั่นมันก็แค่ชั่วคราวแต่นี่ ผมต้องมาอยู่ประจำแล้ว

ไม่รู้ว่าจะเป็นเหตุผลนี้เหรอป่าว จากที่รู้สึกคุ้นเคยบ้านหลังนี้ กลับรู้สึกแปลกออกไปสภาพบ้านผม
ขออธิบายก่อนว่า บริเวณของบ้าน จะมีบ้านใหญ่ กะบ้านเล็กซึ่งมองเห็นกันได้ บ้านหลังใหญ่ ก็จะมียาย แล้วก็พี่เลี้ยงสองคน คนงานอีก 4 – 5 คนอาศัยอยู่ ปกติแล้วผมกับที่บ้านจะพักที่บ้านใหญ่ แต่พอผมต้องมาอยู่ที่นี่ คุณยายท่านก็เมตตาให้ผมไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กคนเดียว บ้านเล็กนี้ คุณตาผมจะชอบมานั่งมานอนประจำ ท่านเสียไปได้ก่อนผมมาประมาณ 2 ปีแล้ว
                "ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอยาย ขี้เกียจไปจัดบ้านใหม่อ่ะ" ผมตอแหลสุดๆ เพื่อจะได้ไม่
ต้องไปอยู่คนเดียว
                "ยายให้คนงานทำความสะอาดแล้วเรียบร้อยแล้ว ปริ้นไม่ต้องจัดอะไรใหม่หรอกแค่เอาเสื้อผ้ายัดใส่ก็แค่นั้นเอง"
ยายผมบอกด้วยความเอ็นดู แล้วก็ไม่ต้องกลัวตาเค้านะลูก เค้าไม่มาทำอะไรเอ็งหรอก

อ้าว สมกะเป็นแม่ของแม่กรูจริงๆ รู้ทันซ้า
                "เหอ ผมครางในลำคอเบาๆ เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน"

มันก็ไม่ได้มีอะไรแย่อย่างที่คิดหรอกครับ ทุกอย่างดูลงตัว เรียกว่า น่าจะอยู่สบายๆด้วยซ้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องครัวไม่ต้องเพราะต้องไปกินกับยายแล้วที่ไฮโซที่สุด ระหว่างที่ผมเดินๆสำรวจ ก็คือมีห้องใต้ดินครับ (โอ้ว ออกแนวไซไฟมากๆ) อยู่ในห้องที่ผมนอนด้วย !?
                "ลุงสนๆ มีห้องใต้ดินด้วย !?" ผมถามลุงคนงานที่ขนของมาให้ ตรงพื้นที่ผมจับอยู่มันมีเหมือนตะขอจับ (คงพอนึกออกนะคับ)
                "อืมม มีมานานแล้วครับ มีตั้งแต่คุณทวดคุณหน่ะ เป็นหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โน่น" ลุงสนพูดไปก็จัดของไปด้วย ต่างจากผม ซึ่งยืนฟังอยู่เฉยๆ(กินแรง)
                "คุณตาคุณเห็นว่าไม่ได้ใช้ทำอะไร ก็เลยทำมาเป็นห้องเก่าของหน่ะ แต่อย่าเข้าไปเลยครับ ฝุ่นเยอะ ตัวอะไรต่ออะไรมีมั่งก็ไม่รู้ ลุงก็ไม่ได้ไปทำความสะอาดข้างในเป็นปีแล้ว"

ลุงแกก็บ่นไปตามประสาคนแก่ แต่วัยเลือดร้อนอย่างผม กลับกระหายใคร่รู้ครับเหอะๆ
พอจัดของเสร็จ ลุงแกก็แนะนำอะไรรอบๆบ้านอีกนิดหน่อย พร้อมกับบอกเวลาที่จะต้องไปกินข้าวกี่โมง อะไรยังไง โห กฎระเบียบเยอะชิบหายพอลุงสนเดินลับตาไป ผมก็เข้ามาในบ้าน คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่อยากจะทำอะไรเป็นอันดับแรก

แกร็ก แกร็ก ….. แอ๊ดดดดดดดด

แปลกแฮะ ไม่ได้เปิดเข้ามาเป็นปี แต่ทำไมมันเปิดง่ายจังวะ ผมคิดในใจแล้วค่อยๆยกให้ประตูเปิดมากขึ้น เพื่อจะได้สอดตัวลงไปได้ ข้างในมืดมากครับ ผมมองไม่เห็นบันไดที่ทอดยาวลงไป จึงได้แต่เอาเท้าค่อยๆแตะทีละขั้น ทีละขั้น ทีละ
                "เชี่ยยยยยยย" ผมอุทานได้ไม่ถึงครึ่งคำ ตัวผมก็เสียหลัก ล้มกลิ้งลงไป
                "อั๊กกก" ตัวผมกระแทกลงบนพื้นไม่เป็นท่า
                "โอยยย" ผมค่อยๆยันตัวขึ้น สายตาเริ่มปรับเข้ากับความมืดได้เล็กน้อยจนพอมองเห็นอะไรลางๆ มือเริ่มคลำสะเปะสะปะ จนรู้สึกว่าไปปัดของบางอย่างเข้า

เพล้งงงงงงงงงงงง เสียงดังกังวานมากจนผมตกใจ

คุณตาจ๋า อย่ามาหลอกหลานเลยนะ พ้มมไม่ได้ตั้งใจง่ะ ว่าแล้วผมก็รีบเผ่นขึ้นบนห้องด้วยความทุลักทุเลแอ๊ดดด ปึ้งง ผมค่อยๆงับบานประตู แล้วก็มาสำรวจตัวเอง
                "ก็อีกประมาณอาทิตย์นึงคับ เปิด 15 นี้อ่ะ"
                "เดี๋ยวอีก วันสองวัน ยายจะให้คนพาไปดูโรงเรียนนะ"
                "ทำไมต้องไปดูด้วยล่ะยาย "
                "แล้วปริ้นไปถูกเหรอป่าวล่ะ ?"
               "ไม่ถูกครับ =_= '' ’’

ผมนึกว่าจะมีคนไปส่งซะอีก
                "ที่นี่ไม่มีคนขับรถ เวลาหลานจะไปโรงเรียน ก็ต้องนั่งรถไปเรียนเอง"
ยายผมเน้นเสียงคำว่า ไม่มีคำขับรถ และ คำว่า ไปเรียนเอง

ผมมีคำว่า - เอ๋ - ในใจ
                "โรงเรียนไม่ได้อยู่แถวบ้านเหรอครับ" ถามด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
ยายมองผมแว่บนึง แล้วก็บ่นอะไรออกมาซักอย่างที่จับใจความไม่ได้
                "โรงเรียนอยู่ในเมืองหลาน "

แม่จ้าววววว แล้วพ่อแม่ผมให้มาอยู่กับยายทำมายยยย อันนี้ผมคิดนะหน้าเริ่มงอหน่อยๆ
                "แล้วผมต้องไปยังไงล่ะ"
                "ขึ้นรถ ป 2 หน้าบ้านนี่ล่ะ ประมาณชั่วโมงนึง" ยายบอกผม
                "ผมต้องไปเองเหรอยาย" ผมถามอีกรอบ เสียงขุ่น
                "หลานเอ้ย ที่นี่ไม่สะดวกสบายเหมือนในกรุงเทพหรอก"

ยายผมบอกแล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ห้อง งั้นก็ถึงคราวผมไปสงบสติอารมณ์บ้างแล้วเลยตั้งท่าจะกลับไปบ้านเล็ก ลุงสนก็เดินเข้ามาบอกผมว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้แกมารับผมไปดูโรงเรียนใหม่
                "ครับลุง แล้ว - - - " ผมว่าจะถามอะไรบางอย่าง ลุงแกก็ชิ่งเดินหลบไปก่อน

เออ คนบ้านนี้แมร่งเป็นไรวะ เย็นชากะกูจริง
                "เออ กูเซงวะ ไอ้อ้น กูเบื่อๆๆๆ" ผมได้ทีบ่นให้ไอ้เพื่อนรักฟังทางโทรศัพท์ถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ผมว่าผมตายแน่
                "เฮ้ย มึง ยังไม่เปิดเทอมก็เงี้ยล่ะ เด๋วพอเปิดเทอม มีเพื่อนใหม่ มึงก็ซ่าเหมือนเดิม "
                "กูเคยซ่าเหมือนมึงตอนไหนวะ"
                "เออๆๆ มึงอ่ะมันเด็กเรียน ในกลุ่มเด็กเลว"
                "สาดดด กูยิ่งกลุ้มๆอยู่ ยังมากวนตีนกูอีก"
                "เอาน่ามึง พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว .. มึงคิดไรมาก เด๋วมึงก็ชิน" มันคงเป็นคำปลอบใจ
ที่ดีที่สุดแล้วล่ะ สำหรับผมในตอนนี้

เพื่อนๆคงจะเป็น ว่าเวลาไปนอนแปลกที่ มักจะนอนไม่ค่อยหลับยิ่งบรรยากาศบางอย่างรอบๆตัว ยิ่งดึกเท่าไร ก็ยิ่งน่าขนลุกมากขึ้นเท่านั้น บริเวณบ้านต้นไม้จะเยอะมากคับ เยอะจนบางทีก็รู้สึกว่าเหมือนมีตัวอะไรโยกไปโยกมาอยู่ เมื่อมองผ่านหน้าต่าง

ตี้ดดด ตี้ดดด

                "ฮาโหลลล ครายยยย ว้า" เสียงไอ้อ้นดูเหมือนมันหลับแล้ว
                "เฮ้ย อ้น คุยเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ"
                "คูยย เหี้ยอาไร ป่านนี้ "
                "เออ คุยกะกูก่อนให้กูหลับก่อน นะ นะ" ผมบอก
                "สัดดดดด" แล้วมันก็ตัดสายไปครับ ไอ้เพื่อนเชี่ยเอ้ยยย ไม่ช่วยกูเล้ย แต่ผมก็ทนความกลัวไปได้ซักพัก แล้วก็ผล่อยหลับไป
                "อือออ อืออออ"

ในพะวัง หรือจะเรียกว่าอะไรซักอย่าง ผมรู้สึกว่าเหมือนมีใครจ้องมองอยู่แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรมากมาย
จนรู้สึกว่า ไอ้สิ่งๆนั้นมันเหมือนเข้ามาใกล้ตัวผมเรื่อยๆ
                "อือออออ …". พยายามจะปัดเป่าความงัวเงียออกจากตัวผม
แต่สงสัยเพราะการเดินทางตลอดวัน ทำให้รู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด
                "ครายยยยยวะ …"

ผมพูดได้แค่นั้น แล้วก็รู้สึกเจ็บจี้ดที่ใบหน้า
                "โอ๊ะ !?!?"

ในห้วงความฝัน ผมคิดไปว่า สงสัยวิญญาณตาผม คงจะมาเล่นงานที่ผมทำของที่ห้องใต้ดินแตกแหง่มๆแต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเหอะ กรูง่วงมาก.. ตื่นมาเช้าวันนั้น มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมต้องตกใจคับ
หน้าผมมีรอยแดงเป็นปื้นเลย รอยมือคนนี่หว่า ? ใครทำกรูว้า……แสดดดด 



ติดตามชมตอนต่อไป




ปล. อาจจะใช้คำพูดผิดบ้างอะไรบ้างนร๊า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น